เอชพี อิงค์ (ฮิวเลตต์ แพคการ์ด) หรือ HP Inc. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์เอชพีเครื่องคอมพิวเตอร์รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ภายใน 3 ปีจากนี้ไปถึงปี 2028 จะปลดพนักงานครั้งใหญ่ระหว่าง 4,000 ถึง 6,000 คน หรือมากถึง 10% ของพนักงานทั้งหมดราว 58,000 คนในปัจจุบัน สาเหตุจากผลการดำเนินงานด้านผลกำไรต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยคาดว่าในปี 2025 นี้ จะมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่หุ้นละ 2.90-3.20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 94.25-104 บาท ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรที่หุ้นละ 3.32 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 107.90 บาท
นอกจากนี้ เอชพีจะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เข้ามาใช้ภายในองค์กรมากขึ้นกว่าเดิมในแทบทุกแผนก เช่น ฝ่ายพัฒนาสินค้า ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ฝ่ายการผลิตและฝ่ายขาย เป็นต้น
นายเอ็นริเก้ ลอเรส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องลงมือทำเพื่อทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันต่อไปได้ จากแผนดังกล่าวเมื่อถึงภายในปี 2028 บริษัทจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 32,500 ล้านบาท ในขณะที่เบิกบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการลดพนักงานในครั้งนี้ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 21,125 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นของเอชพีนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีราคาดำดิ่งมากถึง -25%
เอชพี เปิดเผยว่าต้นทุนของไมโครชิพที่สูงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่เป็นไมโครชิพล๊อตใหม่ที่มีต้นทุนสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนรวมของเครื่องคอมพิวเตอร์ และแลปท็อปเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางเอชพีได้ตัดสินใจย้ายโรงงานการผลิตสินค้าออกนอกประเทศจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาในช่วงก่อนหน้านี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา เอชพี อิงค์ เปิดเผยว่าเตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่มากถึง 15% หรือราว 9,000 คนภายใน 3 ปีข้างหน้าโดยในจำนวนดังกล่าวจะเริ่มปลดพนักงานตั้งแต่ 1,000 ถึง 2,000 คน หรือคิดเป็น 3% ของจำนวนพนักงานในปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 58,000 คนทั่วโลก โดยมีผลตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ท่ามกลางผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณบริษัทออกมามีกำไรที่ยอมรับได้
