หงส์ไทยพลิก 8 วิกฤต ก้าวข้ามโควิดแตะ 100 ล้าน l 8, 11 ก.พ. 66 FULL l BTimes
Feb 11, 2023
เจาะใจ ‘หงส์ไทย’ แบรนด์ยาดมจากฝีมือชายไทยเลือดนักสู้ ผู้กล้าฝ่าทุกวิกฤตจนสร้างยอดขายทะลุ 100 ล้าน
‘ยาดมกระปุกเขียว’ Must Have Items ที่หลายคนมีติดกระเป๋า มากไปกว่านั้นคือหากถามว่าชอบใช้ยาดมแบรนด์ไหน เชื่อว่า ‘หงส์ไทย’ จะกลายเป็นยาดมแบรนด์แรกๆ ที่ถูกพูดถึง วันนี้ BTimes เลยอยากพาทุกคนมาเจาะเส้นทางความสำเร็จที่ต้องบอกว่าถ้าใจไม่สู้ คงอยู่ไม่ได้มาถึงปัจจุบัน…
“จริงๆ แล้วเราเรียนรู้ในการทำงานเนี่ย ตั้งแต่อายุ 13 ผมไม่ได้เรียนหนังสือนะ ผมออกมาช่วยครอบครัวทำงานตั้งแต่จบ ป.6 เลย แล้วก็ออกมาช่วยพ่อ พ่อทำงานคนเดียวนะครับ ขับรถแท็กซี่ แล้วก็เลี้ยงลูก 6 คน รวมทั้งบ้านก็ 8 คน จนเรา ป.6 เรารู้สึกว่า เอ๊ะ เราควรที่จะช่วยพ่อดีกว่า เพราะว่าคนอื่นก็เรียนแล้วก็มีครอบครัวแล้วก็แยกย้ายกันไป ก็เลยตัดสินใจว่าไม่เป็นไร เราออกมาช่วยตอนนี้ดีกว่า เพราะว่าถ้าไม่ช่วยตอนนี้ พ่อเราก็น่าจะลำบาก”
ย้อนกลับไปสมัยที่คุณเก่ง–ธีระพงศ์ ระบือธรรม อายุได้ 13 ปี ในตอนนั้นได้มองเห็นถึงความลำบากของคุณพ่อที่ต้องทำงานหาเลี้ยงทุกคนในบ้าน จนเกิดความคิดที่อยากแบ่งเบาภาระ จึงตัดสินใจออกจากการศึกษา มุ่งหน้าสู่การทำงานเต็มตัว ก่อนจะจับพลัดจับผลูมาประกอบการอาชีพส่งแคปหมู-น้ำพริกให้กับร้านโชห่วย กระทั่งไปสะดุดกับคอลัมน์สร้างอาชีพด้วยการสอนทำพิมเสนน้ำในนิตยสาร ทำให้คุณเก่งปิ๊งไอเดียที่จะหารายได้จากสินค้าประเภทอื่นๆ พอลงมือทำไปได้สักระยะกลับไม่ประสบความสำเร็จ ซ้ำยังเจอผลพวงจากพิษเศรษฐกิจปี 40 ที่ฉุดยอดขายแคปหมู-น้ำพริกให้ดิ่งลงเหว จนต้องเลิกกิจการเบนเข็มสู่การทำงานประจำ แต่โชคก็ไม่เข้าข้าง คุณเก่งประสบอุบัติเหตุจนต้องหยุดงานไปถึง 2 เดือน โดยในระยะเวลาที่พักรักษาตัวก็ไม่ย่อท้อ หยิบยกแผนการดำเนินธุรกิจพิมเสนน้ำมาปัดฝุ่นใหม่ ปรับช่องทางการขาย กระจายไปตามปั้มน้ำมัน ริมถนนใหญ่ที่ผู้คนพลุกพล่าน รวมถึงเจาะกลุ่มของชำร่วย ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ต้องบอกว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ยอดขายวิ่งเข้าหาชนิดที่เรียกได้ว่าผลิตแทบไม่ทัน
มาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดว่าทุกอย่างน่าจะลงตัว แต่กลับไม่ใช่แบบนั้น… เมื่อตลาดมีผู้เล่นมาก สงครามราคาจึงเกิดขึ้น ผู้ผลิตหลายเจ้าเลือกจะกัดฟันสู้ด้วยการลดต้นทุนและราคา สะเทือนถึงหงส์ไทยที่จำใจต้องปรับสเปคของวัตถุดิบลง กระทบเป็นระลอกไปถึงเรื่องคุณภาพ และยอดขาย สุดท้ายต้องยกธงขาวหยุดดำเนินกิจการ แล้วหันมาพักใจแต่แล้ววันหนึ่งเหมือนโชคชะตาจะเริ่มเห็นใจ ขณะที่คุณเก่งตระเวนขายสินค้า ก็เจอพนักงานปั้มน้ำมันที่คุ้นเคยทักขึ้นว่า “พี่ไปไหนมา ยังมีลูกค้าของพี่มาตระเวนหาอยู่” จากประโยคดังกล่าวกลายเป็นแสงสว่างดันให้คุณเก่งกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง พร้อมกับค้นพบหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ
และแล้วเรื่องราวก็ดำเนินอย่างสวัสดิภาพ กระทั่งโควิด-19 เข้ามาสกัดขาอย่างจัง ยอดขายที่เคยดีกลับร่วงถึง 85% แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของชายเลือดนักสู้ คุณเก่งยังเดินเกมธุรกิจด้วยแนวคิดเน้นสร้างสัญชาตญาณนักสู้ให้พนักงาน ปฏิญาณอย่างแรงกล้าที่จะไม่ปลดใครออกแม้แต่คนเดียว ซ้ำยังเปิดรับสมัครพนักงานสายการตลาดหลายอัตรารองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้น จากความพยายามนี้ส่งผลให้ยอดขายในปี 2564 ก้าวแตะ 50 ล้านบาท และดับเบิลอีกเท่าตัวในปี 2565 มาเป็น 100 ล้านบาท รวมถึงมีสาขาใหม่เพิ่มถึง 3 สาขา เรียกได้ว่าผลิตมาเท่าไรก็ไม่พอ
คุณเก่งยังย้ำอีกว่าหงส์ไทยจะไม่หยุดโตแต่เพียงเท่านี้ พร้อมตั้งเป้าที่จะขยายไลน์การผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศ โดยแง้มว่าปี 2566 หงส์ไทยจะต้องโตเพิ่มขึ้นขั้นต่ำ 15% และก้าวสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้
