จับพลังซอฟท์พาวเวอร์มวยไทยแท้จริง ทำรายได้จริง l 12, 23 พ.ย. 65 FULL l BTimes
Nov 24, 2022
ทุ่มงบกว่าพันล้านดันซอฟต์ พาวเวอร์ ‘มวยไทย’ เปิดโรงแรมไทยไฟท์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมเนรมิตจุดเช็คอิน-พักผ่อนแห่งใหม่บนเกาะสมุย
‘มวยไทย’ กีฬาประจำชาติสุดทรงพลัง หนึ่งในซอฟต์ พาวเวอร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ จนกลายเป็นกีฬายอดฮิตที่คนทั่วโลกอยากมาเรียนรู้ และ ‘ไทยไฟท์’ ถือเป็นเวทีที่ยกระดับการแข่งขันมวยไทยขึ้นสู่ระดับสากล ซึ่ง ณ นาทีนี้หากจะถามว่าเวทีไหนดุเดือดและมันที่สุดในประเทศไทย เชื่อว่าหลายๆ คนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไทยไฟท์’
หลังจากที่ไทยไฟท์ได้รับการตอบรับที่ดีเรื่อยมาจากผู้ชมทั้งนอกและในประเทศ กระทั่งวันหนึ่งคุณมด – นพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด ก็เกิดลูกบ้าอยากลองเสี่ยงพาไทยไฟท์โดดออกไปสู่ต่างประเทศ ปักหมุด ณ สนามขนาดใหญ่ในฮ่องกงที่จุผู้ชมได้มากถึง 15,000 คน และทุกที่นั่งภายในถูกจับจองเต็มก่อนเวลาเริ่มแข่งขัน 1 ชั่วโมง นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นที่ทำให้คุณมดประทับใจจนน้ำตาคลอ
“พี่เป็นคนรักความเป็นไทย อยากบอกความเป็นไทยไปทั่วโลก อันนี้คือคอนเซ็ปต์พี่คิดตั้งแต่เด็กเลยนะครับ”
แต่คุณมดก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ยังพยายามที่จะผลักดันความเป็นไทยให้ออกสู่สายตาชาวโลกมากที่สุด พร้อมขับเคลื่อนให้ความตั้งใจที่กล่าวไปข้างต้นได้เกิดขึ้นจริง ด้วยการเนรมิตพื้นที่บนหาดละไม เกาะสมุยให้กลายป็น ‘โรงแรมไทยไฟท์ (Thai Fight Hotel) จุดพักผ่อนครบวงจรแห่งใหม่บนพื้นที่เกือบ 5 ไร่ มีความยาวชายหาดราว 500 เมตร ประกอบไปด้วยอาคาร 3 หลัง จำนวน 50 ห้อง และ 4 พูลวิลล่า ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ THAI FIGHT SOFT POWER ดึงเอาเอกลักษณ์มวยไทยเป็นแกนหลักในการออกแบบผสานความเป็นไทยโมเดิร์นเข้าไปในห้องพักทุกห้อง นำกระสอบทราย นวม มงคลสวมศีรษะ หรือประเจียดแขน มาใช้ในการตกแต่งห้องพัก มากไปกว่านั้นคือการต่อยอดจุดแข็งให้กลายเป็นจุดเด่น เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเรียนมวยไทยแบบตัวต่อตัวกับนักมวยอาชีพชื่อดังของไทยไฟท์ อาทิ แสนชัย, กิตติ, ป.ต.ท., เต็งหนึ่ง, ไทรโยค, สุดสาคร, น้องโอ, พยัคฆ์สมุย
ความตื่นตายังไม่จบ เพราะโรงแรมไทยไฟท์ ได้จับเอาศิลปะการต่อสู้แบบไทยและวิทยาศาสตร์การกีฬามาผนวกให้เกิดเป็นการนวดสไตล์ใหม่เอาใจผู้เข้าพักแบบเต็มพลัง นอกจากนี้ยังเปิดครัวให้ได้ลิ้มลองอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ไปพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟบนริมชายหาดส่วนตัว
“หลักคิดเลยว่านี่จะทำยังไง พี่มดเป็นแค่ 1 คนที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ พี่มดแค่ห่อซอฟต์ พาวเวอร์ให้มันมีรูปทรงที่สวยงาม พี่มดไม่สามารถที่จะมีพลังแบบรัฐบาลไทย ซึ่งเขามีอำนาจ เขามีงบประมาณ เขาถืออำนาจอยู่ ที่จริงเขาน่าที่จะหันมามองเรื่องซอฟต์ พาวเวอร์ของไทยให้มันมากขึ้น พี่ว่าเขาพูดแล้วก็หายไป บอกว่ามวยไทยเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ อาหารไทยเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ละครหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันก็หายไป มันไม่มีอะไรจริงจัง พี่คิดว่าเราต้องหันมามองจริงๆ แล้ว พี่ก็คิดว่าการหารายได้เรื่องเศรษฐกิจ ยิ่งเป็นแบบนี้นะครับ เราก็ต้องมองสิ่งเหล่านี้มากที่สุด ท่องเที่ยวไทยต่อไป พี่มดเรียนเด่นเลยนะครับว่า มันจะเป็นอันดับ 1 ของโลก”
เป้าหมายยิ่งใหญ่อีกอย่างที่คุณมดวางแผนไว้นอกเหนือจากการทำแบรนด์ให้เป็นที่จดจำจากผู้คนทั่วโลก คือการพาไทยไฟท์เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ พร้อมฝากทิ้งท้ายให้รัฐบาลช่วยกันผลักดันมวยไทย กีฬาทรงพลังให้กลายเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ เพื่อสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง
