BTimes Weekend: ‘สอนศิริฟาร์มควายไทย EP.2’ นวัตกรรมน้ำนมควายสู่ตลาดสินค้ามูลค่าเพิ่มกว่า 2,000 ล้านบาท (Re-run)
Aug 15, 2021
บุกฟาร์มสอนศิริเรียนรู้กระบวนการรีดนม ชมนวัตกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำนมควายที่สร้างรายได้กลับคืนกว่า 2,000 ล้าน
ถึงแม้ควายจะเป็นสัตว์ที่มีภาพจำที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไร แต่รู้กันหรือไม่ว่าน้ำนมควายนั้นอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์นานาชนิด แถมยังมีรสชาติที่หอมหวาน อีกทั้งควายยังมีความแข็งแรงทนทานต่อโรค รวมถึงมีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถเปลี่ยนอาหารหยาบให้กลายเป็นเนื้อ หรือน้ำนมที่ได้คุณภาพมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นถึงเกือบ 4 เท่า…
นอกจากคุณเอกจะใจดีพาชมบรรยากาศการเลี้ยงควายไทยในระบบปิด รวมถึงพาไปสัมผัสใกล้ชิดกับควายที่แพงที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังได้อธิบายถึงกรรมวิธีการรีดนมควายไว้อย่างละเอียด เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการพาควายไปอาบน้ำทำความสะอาดบริเวณเต้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็จะทำการรีดน้ำนมค้างเต้าออกจนหมด แล้วถึงจะทำการสวมไลเนอร์เข้าไป ซึ่งควาย 1 ตัวจะใช้ระยะเวลาในการรีดประมาณ 25 นาที โดยน้ำนมที่ออกมาในช่วง 10 นาทีแรกจะเป็นน้ำนมใสๆ ยังไม่ได้คุณภาพ แต่หลังจากนั้นเป็นต้นไปน้ำนมที่ถูกปล่อยออกมาจะมีคุณภาพ มีความเข้มข้น และมีกลิ่นหอม
สอนศิริฟาร์มควายไทยไม่ได้มองสัตว์แค่เพียงเชิงพาณิชย์ แต่ยังได้คำนึงถึงความรู้สึกของสัตว์ พร้อมจัดเซ็ทอาหารเสริมชนิดเข้มข้นคอยบริการให้ควายรู้สึกอิ่มท้องตลอดระยะเวลาการรีดนม และเลือกที่จะทำการรีดเพียงวันละ 1 ครั้ง เพื่อให้แม่ควายกับลูกควายได้อยู่ใกล้ชิดกัน รวมถึงให้ลูกควายได้ดื่มน้ำนมจากเต้าหลังรีดเสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเต้านมอักเสบ ทั้งหมดนี้นับเป็นการสร้างความสุขกลับคืนให้กับควายแม่พันธุ์และลูกควายได้อีกทางด้วย
ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากได้น้ำนมในปริมาณที่เพียงพอแล้ว ก็จะทำการส่งน้ำนมที่ได้ไปเข้าสู่กระบวนการพาสเจอไรซ์แบบโฮมเมดที่เน้นความสะอาด และปราศจากสารเคมี เพื่อให้สารอาหารที่ได้ยังอยู่ครบถ้วน พร้อมนำไปบรรจุใส่ขวด ติดฉลากระบุวันเวลาที่ผลิตอย่างชัดเจน และส่งจำหน่ายต่อไป
ทั้งนี้ สอนศิริฟาร์มควายไทยไม่ได้มีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์นมควาย แต่ยังนำน้ำนมที่ได้ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ พุดดิ้งนมควาย โยเกิร์ตนมควาย โลชั่นนมควาย แคปซูลรกควาย ฯลฯ โดยมีแผนที่จะพัฒนาต่อยอด และส่งเสริมให้เกษตรกรรายอื่นๆ ในพื้นที่ได้มีรายได้ ด้วยการตั้งโรงงานรองรับการผลิตชีสจากนมควาย เทิร์นเป็นรายได้ส่งออก และจำหน่ายภายในประเทศต่อไปในอนาคต
