EXIM Bank กล้าเปลี่ยน คู่ธุรกิจไทยยั่งยืนในตลาดโลก l 26 พ.ย. 65 FULL l BTimes Weekend

Nov 27, 2022

จับแนวโน้มเส้นทางดันเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยสู่เส้นชัยบนแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกกับ Exim Bank

แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างภาคการส่งออกจะเจอสัญญาณชะลอตัวจากการปิดประเทศสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในปีเสือดุ 2565 ก็ถือว่าพอมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีที่ถึงจะช้า แต่ก็พอทำให้ใจชื้นและมองเห็นแสงสว่างรำไรในการจะกระตุกเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้

โดยมุมมองของ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เผยว่าแนวโน้มการค้าโลกช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 มีอัตราการเติบโต 2.9% แต่ปีหน้าจะตกไปอยู่ที่ประมาณ 2% หรือต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งเงินเฟ้อ สงคราม การแบ่งข้าง และการแบ่งขั้วทางการเมืองที่หลายประเทศถึงกับต้องกุมขมับ เพราะไม่ว่าจะเลือกทำการค้ากับฝ่ายใด ก็จะมีเงื่อนไขของฝั่งตรงข้ามสกัดกลับเช่นกัน ส่งผลให้แต่ละประเทศต้องทำการปรับตัว และยกเครื่องระบบซัพพลายเชนภายในใหม่ อีกทั้งเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจเองก็ส่อแววเข้าภาวะถดถอย ขณะที่เศรษฐกิจการค้าทางซีกโลกใต้ เช่น อาเซียน เอเชียกลาง เอเชียใต้ อินเดีย แอฟริกา กลับเปลี่ยนข้างมาโตสดใส จากที่กล่าวไปแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการค้าการลงทุนที่เปลี่ยนไป จากเดิมเคยแข่งกันลดค่าเงิน เพื่อกระตุ้นการส่งออก ก็พลิกเกมมาเป็นการแข่งขันขึ้นดอกเบี้ย เร่งทำค่าเงินให้แข็งแกร่ง เพื่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง

“ผมว่ามันเป็นทางรอด ไม่ใช่ทางเลือก”

ย้อนกลับมาถึงโอกาสในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยกับโมเดล BCG ดร.รักษ์ กลับมองว่าโมเดล BCG คือทางรอดของธุรกิจ เนื่องจากใน 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจในกลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตถึง 21% เฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน เมื่อมองตลาดเกิดใหม่ใกล้กับประเทศไทย คือในกลุ่ม CLMV กลับพบว่าธุรกิจกว่า 30% เป็นธุรกิจด้านพลังงานสะอาด หรือธุรกิจสีเขียว (Go Green) ที่ให้ความสำคัญกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

“เราต้องกลืนกินกระสุนแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ได้” ดร.รักษ์ ทิ้งหมัดฮุกที่ชวนกระตุกความคิดและดึงความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง พร้อมตอกย้ำว่า Exim Bank ได้พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าใจผู้ประกอบการทุกขนาด เน้นการให้ความรู้ เงินทุน และโอกาส รวมถึงทรานส์ฟอร์มตัวเองเป็นตัวกลางในการเชื่อมธุรกิจให้เกิดการจับคู่ทางการค้า โดยในปี 2566 Exim Bank จะยึดกลยุทธ์ ‘EECA’ ที่ ดร.รักษ์ เรียกเป็นภาษาไทยว่า อีกา หรือนกที่มีความแข็งแกร่งและอยู่รอดในทุกสถานการณ์ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะประกอบไปด้วย

1. Evaluate คือประเมิน ยอมรับ และปรับตัวเอง
2. Empathize คือการเข้าใจลูกค้า เข้าใจคู่แข่ง และเข้าใจตัวเอง
3. Clarify คือการสื่อสารให้ชัดเจน อย่างในปัจจุบันที่ Exim Bank ได้ทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสาร เลิกใช้คำทับศัพท์ หันมาใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย พร้อมทำความเข้าใจลูกค้า โดยไม่เอาความคิดตนเองเป็นที่ตั้ง
4. Agile คือการทำแผนธุรกิจที่ยืดหยุ่น รวดเร็ว และพร้อมที่จะปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก