ความสุขสุดท้ายของคนไทยก่อนเจอพิษโควิด-19 ระบาด…

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในตอนนี้ที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ เห็นได้จากยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเศรษฐกิจยังตกต่ำย่ำแย่จนน่าเป็นห่วง ซึ่งไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ภาพรวมของทั่วโลกก็ดูลำบากไม่ต่างกัน ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเครียดสะสมและมีความสุขน้อยลง โดยผลสำรวจจากมาร์เก็ตบัซซพบว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลให้คนไทยมีความสุขน้อยลงถึง 75% ดัชนีความสุขต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 16 ปี และจากรายงานขององค์การสหประชาชาติได้มีการจัดลำดับความสุขของคนทั่วโลกกว่า 149 ประเทศ ในปี 2564 พบว่าประเทศฟินแลนด์ ยังเป็นประเทศที่ครองแชมป์พลเมืองมีความสุขที่สุดในโลกถึง 4 ปีซ้อน ตามต่อด้วยประเทศเดนมาร์ก และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนประเทศไทยคงรักษาอันดับที่ 53 ของโลกไว้เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ซึ่งผลสำรวจนี้มาจากการสอบถามประชาชนและใช้มาตรวัดอื่นๆ ประกอบ เช่น จีดีพีของแต่ละประเทศ การสนับสนุนทางสังคม เสรีภาพส่วนบุคคล และระดับของการคอร์รัปชัน

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย คนไทยต่างต้องอดทนอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดตลอดเวลา อีกทั้งงานสังสรรค์ ความบันเทิง หรือเทศกาลต่างๆ ก็ถูกยกเลิกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลปีใหม่ที่ผู้คนจะออกมาเฉลิมฉลองร่วมกันอย่างมีความสุข หรือเทศกาลสงกรานต์ที่ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของประเทศก็ถูกงดจัดมาถึง 2 ปี ไม่เว้นแม้แต่คอนเสิร์ตหรืองานบันเทิงอื่นๆ ที่เป็นกิจกรรมสร้างความสุข กลับต้องถูกตัวร้ายอย่างโควิด-19 พรากไป

เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ ที่เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ถูกจำกัดพื้นที่ หรือควบคุมพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเช่นทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ภาครัฐมีการออกนโยบายขอความร่วมมือให้ประชาชน Work From Home ให้มากที่สุด และงดออกนอกบ้าน ยกเว้นกรณีที่จำเป็นเท่านั้น อีกทั้งห้างร้านในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 13 จังหวัดที่มีการล็อคดาวน์ยังถูกสั่งปิด กระทบถึงกิจกรรมคลายเครียดของประชาชนอย่างการช้อปปิ้งให้กลายเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ กระทบต่อเนื่องไปถึงผู้ประกอบการต่างก็ต้องมองหาลู่ทางและโอกาสใหม่ๆ ที่จะพยุงธุรกิจให้สามารถเดินต่อไปได้ และออนไลน์ก็ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก ลูกโซ่ต่อมาคงหนีไม่พ้นกลุ่มแรงงาน ที่บางคนโชคดีแม้จะถูกลดเงินเดือน แต่ก็ยังมีงานทำ แต่บางคนกลับถูกปลดกลางอากาศ จนต้องหารายได้เสริม หรืออาชีพใหม่ พร้อมใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อในการขายของสร้างรายได้ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ฟ้าจะผ่าเข้าอย่างจัง เมื่อบริการขนส่งกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ไม่สามารถนำจ่ายพัสดุได้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้พนักงานติดเชื้อและต้องหยุดเพื่อรักษา หรือกักตัว ส่งผลให้จำนวนแรงงานไม่เพียงพอต่อการให้บริการ การขนส่งจึงเป็นไปอย่างล่าช้า หนักที่สุดคือจำเป็นต้องปิดให้บริการชั่วคราวในบางพื้นที่ เกิดเป็นความเสียหายต่อเนื่องกันเป็นทอดๆ

เมื่อความสุขที่เคยมีในอดีตค่อยๆ จางหายไป พร้อมถูกความเครียดเข้ามาแทนที่ จากที่เคยออกไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ตได้อย่างอิสระ จากที่เคยหาความสุขได้ง่ายกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในวันนี้กลับทำไม่ได้เหมือนอย่างเคย แต่ก็ยังดีที่ในช่วงนี้มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยความสุขล่าสุดที่พอทำให้คนไทยยิ้มได้ มาจากการที่น้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดสาวไทยได้คว้าชัยในศึกการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ จนคว้ารางวัลเหรียญทองเหรียญแรกมาครองให้คนไทยได้ร่วมยินดี และสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาหัวใจของคนไทยให้รู้สึกพองฟูขึ้นมาได้บ้าง แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถทำให้ลืมความทุกข์ไปได้ชั่วขณะ และถึงแม้ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับการระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ทำให้เจ้าภาพไม่อนุญาตให้มีผู้เข้าชมการแข่งขัน ส่งผลให้บรรยากาศระหว่างการแข่งขันดูเงียบเหงากว่าทุกครั้งที่เคยจัดมา แต่เชื่อว่านักกีฬาทุกคนได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประเทศอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ และการไม่ได้เข้าชมก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะกองเชียร์สามารถส่งใจ ติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิดได้ผ่านสื่อโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มออนไลน์

สุดท้าย เมื่อทุกคนอ่านมาถึงย่อหน้านี้ ลองมาคอมเม้นบอกกันสักนิดว่าสิ่งแรกที่อยากทำหลังจากโควิด-19 จบลงคืออะไร และถึงแม้ในวันนี้จะยังไม่สามารถทำได้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน

ทีมงาน BTimes ขอเป็นกำลังใจให้ลูกเพจทุกท่านสามารถผ่านพ้นวันที่ยากลำบากนี้ไปได้ เพื่อรอวันที่เราจะโบกมือลาหน้ากากอนามัย และเริ่มใช้ชีวิตที่มีความสุขกันอีกครั้ง รักทุกคนนะคะ ขอบคุณที่ให้กำลังใจกันเสมอมาค่ะ