ตะลึงคนไทยคนรวยติดโผอันดับโลก สวนทางกับผลสำรวจบัตรคนจนที่เพิ่มสูงขึ้น

‘ประเทศไทยต้องไม่มีคนจน’ คงเป็นประโยคในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากให้เกิดขึ้น แต่พอหันกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริง ดูแล้วกลับเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน เพราะไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยก็ยังคงเป็นปัญหาที่หาทางแก้ไม่ได้

ที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวความยากลำบากของพี่น้องคนไทยในหลากหลายเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นข่าวการถูกเลิกจ้าง ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือจะเป็นเรื่องของราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทำให้ชาวนาชาวไร่ต้องแบกรับภาระเป็นหนี้เป็นสินอันแสนหนักอึ้ง จนแทบลืมตาอ้าปากไม่ไหว ทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ยังพุ่งแรงแซงจรวด ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก

แต่อีกมุมที่เปรียบเสมือนโลกคู่ขนานของเศรษฐีผู้มีอันจะกินกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตรงกับประโยคที่เคยได้ยินมาว่า ‘เงินต่อเงิน’ คนรวยทำอะไรก็รวยขึ้นไปอีก ถึงขั้นมีการสำรวจความร่ำรวยของเหล่ามหาเศรษฐีจากทั่วโลก โดย Hurun Global Rich List 2021 พบว่าในปีนี้ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งมีมากถึง 52 คน วัดจากทรัพย์สินในมืออย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 3.3 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่ถึง 31 คน อยู่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม หากเปรียบเทียบลึกลงไปในกลุ่มของเมืองใหญ่พบว่ากรุงเทพมหานครมีมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับ 12 มีทั้งหมดถึง 51 คน และอยู่ในอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรองจากจีนแผ่นดินใหญ่และอินเดียเท่านั้น

กลับมามองในโลกความเป็นจริงของคนส่วนใหญ่ดูจะไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คิด อันจะเห็นได้จากตัวเลขการคาดการณ์ของกระทรวงการคลังที่ได้เปิดเผยว่า ในต้นปี 2565 จะมีประชาชนลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนรอบใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 15 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีผู้ถือบัตรอยู่ประมาณ 13.6 ล้านคน จากตัวเลขดังกล่าวทำให้คิดได้ว่าเป็นเพราะคนไทยเริ่มเข้าถึงข่าวสารโครงการนี้เพิ่มขึ้น หรือเป็นเพราะประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นเพราะสาเหตุหลัง ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าไม่น้อยที่กลับกลายเป็นว่า ‘แม้คนรวยจะเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนคนจนกลับไม่ลดลงเลย’

แม้การที่ประเทศไทยจะมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ในอีกมุมหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยสถิติจาก Credit Suisse Global Wealth Databook ได้ระบุว่าในปี 2018 ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีช่องว่างรายได้กว้างมากที่สุดในโลก และในปี 2020 ก็เป็นประเทศที่มีความไม่เท่าเทียมกันมากเป็นอันดับ 5 ของโลก จากทั้งหมด 40 ประเทศ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวทำให้นึกถึงภาพยนตร์เกาหลีชื่อดังอย่างเรื่อง ‘ชนชั้นปรสิต’ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘Parasite’ หนังรางวัลออสการ์ปี 2020 ที่พูดถึงเรื่องราวความเหลื่อมล้ำของคน 2 ชนชั้นไว้อย่างชัดเจน

เคยได้ยินมาว่า ‘ในเมื่อทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน เราไม่ควรแบ่งชั้นวรรณะ’ ดังนั้นทุกอย่างควรเท่าเทียมกัน แต่กลับเป็นเรื่องตลกร้ายที่ว่าเมื่ออำนาจของเงินมีอิทธิพลมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่าความเสมอภาคในสังคมจะน้อยลงเท่านั้น ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย สุดท้ายก็ได้แต่หวังว่าความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในประเทศในตอนนี้จะลดน้อยลง หรือถ้าจะให้ดีก็อยากให้หมดไปเลย

เชื่อว่าแฟนเพจทุกคนก็มีความหวังเช่นเดียวกัน และทีมงาน BTimes ก็ขอเป็นพื้นที่ของความสบายใจที่พร้อมจะให้กำลังใจ และจะคอยแชร์ความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันเสมอ มาเป็นกำลังใจให้กันและกันต่อไปนะคะ