ส่องนโยบายแก้ “ค่าไฟ-น้ำมันไทยพุ่ง” พรรคไหนจะเบรคความร้อนแรงยุคถลุงเงินออกจากกระเป๋า กู้วิกฤตเศรษฐกิจ ของแพงได้

632
0
Share:

ส่อง นโยบาย แก้ “ ค่าไฟ -น้ำมันไทยพุ่ง” พรรคไหนจะเบรคความร้อนแรงยุคถลุงเงินออกจากกระเป๋า กู้วิกฤตเศรษฐกิจ ของแพงได้ เลือกตั้ง

ค่าไฟแพงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในช่วงนี้ ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนสุดๆ ปริมาณการใช้ไฟยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะแต่ละบ้านต่างก็กระหน่ำเปิดแอร์คลายร้อนแบบฉ่ำๆ ซึ่งแน่นอนว่าค่าไฟก็ร้อนแรงขึ้นพอๆ กับอากาศ บางบ้านแพงพุ่งขึ้นมากกว่าเท่าตัวเลยก็มี จึงเป็นช่วงสบโอกาสของบรรดาเหล่าพรรคการเมืองที่จะปิ๊งไอเดียเร่ขายนโยบายการแก้ปัญหาค่าไฟแพงกัน

นโยบายแก้ปัญหา “ค่าไฟแพง” ถือเป็นพระเอกในการหาเสียงในช่วงฤดูกาลการเลือกตั้งครั้งนี้ และยังรวมไปถึงนโยบายแก้ราคาพลังงานที่เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนต่างๆ ด้วย ไม่เว้นแม้แต่ค่าไฟที่บางช่วงต้องใช้น้ำมันในการผลิตไฟฟ้า ดังนั้น “BTimes” จึงได้รวบรวมนโยบายแก้ราคาพลังงานและค่าไฟแพงของแต่ละพรรคเด่นๆ ในสนามเลือกตั้งมาฝาก

พรรคพลังประชารัฐ
เป็นพรรคที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินให้เหลือลิตรละ 18 บาท น้ำมันดีเซลลดลิตรละ 6.30 บาท ซึ่งจะทำทันทีได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊ส ให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญคือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย

พรรครวมไทยสร้างชาติ
เป็นพรรคที่ชูนโยบายลดค่าไฟเหลือ 3.90 บาทต่อหน่วย สำหรับผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกร โดยที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกว่านโยบายของพรรคจะกำหนดราคาค่าไฟฟ้าให้กับผู้มีรายได้น้อย หรือเกษตรกรผ่านการอุดหนุนตามกลไกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส โดยคำนวณแล้วต้องไม่เกิน 3.9 บาทต่อหน่วย เพื่อจะไม่ให้กระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชนมากเกินไป

พรรคประชาธิปัตย์
ได้ประกาศจะรื้อสูตรคำนวณค่า FT ลดค่าไฟฟ้าได้ 1–1.50 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟลดลงจากประมาณ 4.77 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.27–3.77 บาทต่อหน่วย โดยที่นายเกียรติ สิทธิอมร ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจุดยืนด้านพลังงาน ที่พร้อมจะรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ลดรายจ่ายคนไทย โดยหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อลดรายจ่ายให้คนไทยอย่างถาวร สำหรับเรื่องไฟฟ้า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบาย ยกเลิกค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ FT เพื่อลดค่าไฟฟ้าได้ 1–1.50 บาทต่อหน่วย ขณะที่ด้านราคาน้ำมันเสนอปรับโครงสร้างมาตรฐานค่าการกลั่นลดลง คาดว่าจะส่งผลราคาน้ำมันลดลงได้มากถึง 3–5 บาท พร้อมชูพลังงานทดแทนเป็นวาระแห่งชาติ ก้าวสู่พลังงานสีเขียว พลังงานสะอาด สู่สังคมคาร์บอนต่ำ

พรรคชาติไทยพัฒนา
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ชูประเด็นปัญหาค่าไฟฟ้าแพงเช่นกัน ซึ่งชูเรื่องค่าไฟให้เป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง โดยหนึ่งในแนวทางที่พรรคชาติไทยพัฒนาเสนอคือ การส่งเสริมให้มีการลงทุนโดยภาคเอกชนติดโซลาร์เซลล์ในบ้านเรือนแต่ละบ้าน โดยเสนอให้ขายเป็น ยูนิต ซึ่งรายได้ของการขายไฟแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่รับหน้าที่ดูแลโซลาร์เซลล์ในชุมชน ส่วนที่ 2 คือแบ่งให้กับประชาชนที่เป็นผู้ผลิต และส่วนที่ 3 คือการคืนให้กับเอกชนผู้ที่มาลงทุน ซึ่งนี่เป็นแนวทางการแก้ปัญหาระยะสั้น

ขณะที่การแก้ปัญหาระยะยาวต้องดูกำลังการผลิตไฟในประเทศ ดูสัญญาที่เซ็นไปกับภาคเอกชนว่าเกิดความเป็นธรรมกับประชาชนมากน้อยแค่ไหน โดยพรรคจะเสนอให้ลดภาษีโซลาร์เซลล์เหลือ 0 บาท หรือน้อยที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้มีกำลังซื้อและสามารถติดตั้งกันเองได้ และจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีการลงทุน หากบางครั้งในชุมชนไม่สามารถทำกันเองได้ เท่ากับว่าจะมีโซลาร์ฟาร์มติดอยู่บนหลังคาเรือนพี่น้องประชาชนทั้งชุมชนสร้างรายได้ และหากประชาชนผลิตไฟใช้ตอนกลางวันได้ ตอนกลางคืนก็เปลี่ยนเป็นมิเตอร์ TOU ค่าไฟก็จะน้อยลง ซึ่งจะนำนโยบายนี้เข้ามาทำทันที ให้เสร็จภายใน 1 ปี เช่นเดียวกับการลดค่าไฟฟ้าให้กับเกษตรกร

พรรคเพื่อไทย
เป็นอีกพรรคมาแรง ที่ชูนโยบายลดราคาค่าไฟฟ้าให้เป็นไปตามต้นทุนราคาพลังงาน ซึ่งนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าประเด็นการลดค่าไฟฟ้า ข้อเท็จจริงจะลดได้มากน้อยเท่าไรนั้นต้องพิจารณาจากเรื่องของต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นองค์ประกอบของต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นหลัก เพราะปัจจุบันแม้ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดลงบ้าง แต่แนวโน้มราคายังสูงเนื่องจากยังมีสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และมีความต้องการใช้ก๊าซแอลเอ็นจีมากขึ้นในต่างประทศ โอกาสที่ประเทศไทยจะได้ใช้ไฟฟ้าถูกระยะยาวต้องมองเรื่องของการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากแหล่งก๊าซภายในประเทศ หรือเร่งการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย–กัมพูชาเพื่อนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า เพื่อลดค่าไฟฟ้า 1–2 บาทภายในระยะเวลา 2–3 ปี

พรรคชาติพัฒนากล้า
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่านโยบายด้านพลังงานของพรรคจะมุ่งแก้เรื่องการผูกขาดเพราะการผูกขาดทำให้มีการแข่งขันที่ลดลง ดังนั้นจะต้องทำอย่างไรให้เกิดการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นทั้งในเรืองของก๊าซ น้ำมัน และไฟฟ้า ซึ่งพรรคจะลงไปดูถึงโครงสร้างว่าอะไรคือต้นทุนแฝงที่ทำให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้นซึ่งอาจจะเป็นบางขั้นตอน บางหน่วยงานที่ไม่มีความจำเป็นก็ควรที่จะต้องยกเลิก โดยมองว่าสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นถือว่ายังไม่สมดุล เนื่องจากเราผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติอยู่ถึงกว่า 70%และใช้พลังงานหมุนเวียนเพียง 20% ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานทดแทนได้เพิ่มขึ้น และสนับสนุนการแยกกิจการสายส่งออกมาจากการไฟฟ้า แล้วมีหน่วยงานเฉพาะมาดูแล เพื่อไม่ให้มีการผูกขาดและเปิดโอกาสให้ประชาชนขายไฟฟ้า หรือเลือกใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันทันที ราคาพลังงานก็จะถูกลงเพราะประชาชนสามารถเลือกซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตที่จำหน่ายไฟฟ้าในราคาถูก หรือว่าสามารถเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้

พรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกล แม้จะเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ก็ชูนโยบายรื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมีแผน 5 ขั้นที่จะลดราคาค่าไฟฟ้าลง ได้แก่
1. การใช้กลไกของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปลี่ยนนโยบายจัดสรรก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตไฟฟ้า ลดค่าไฟ 70 สตางค์ต่อหน่วยโดยทำในปีแรก และเป็นนโยบายเร่งด่วนภายใน 100 วัน หลังจากได้เป็นรัฐบาล
2. ปลดล็อกระบบขายไฟมิเตอร์หมุนกลับจากหลังคาบ้าน สนับสนุนให้ทุกบ้านติดโซลาร์เซลล์ได้
3. เปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า
4. ชนกับกลุ่มทุนใหญ่ ลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากค่าความพร้อมจ่าย (AP) ของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้า
5. เดินหน้าแผนผลิตกำลังไฟฟ้า (PDP) Net Zero โดยไม่เพิ่มโรงไฟฟ้าฟอสซิลอีก และตั้งเป้าปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดภายในปี 2580

พรรคไทยสร้างไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคได้ประกาศว่าจะลดค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกิน 3.5 บาทต่อหน่วย เพราะที่ผ่านมาคนไทยต้องจ่ายค่าไฟแพงกว่าความเป็นจริง สาเหตุจากการที่รัฐทำสัญญาผลิตไฟล่วงหน้าถึง 53,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งสูงเกินความจำเป็น ขณะที่จากสถิติประชาชนใช้ไฟฟ้าจริงไม่เกิน 33,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ประเทศไทยมีการสำรองไฟฟ้าเกินความต้องการใช้จริงสูงถึง 20,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง

พรรคภูมิใจไทย
สำหรับพรรคภูมิใจไทย ชูนโยบาย “โครงการฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์” ซึ่งจะสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้หลังคาเรือนละ 450 บาท โดยรัฐบาลจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้แก่ประชาชนที่นำบ้าน หรือที่พักอาศัย สถานประกอบการเข้าร่วมโครงการฟรีทุกบ้าน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และนำไฟฟ้ามาใช้ในบ้านเรือนของตนเอง และรัฐจะรับซื้อกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่เหลือใช้ผ่านระบบของการไฟฟ้าฯ ซึ่งการไฟฟ้าฯ จะต้องปรับบทบาทหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ของรัฐบาล

นโยบายของแต่ละพรรคที่ “BTimes” มาฝากนั้นจะเป็นเพียงนโยบายขายฝัน หรือเป็นความหวังที่จะพาหลุดพ้นจากฝันร้าย 8 ปี ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราประชาชนคนไทยภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ต้องออกไปใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งอย่างพร้อมเพรียง โดยยังมีอีกหลายพรรค ทั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 67 พรรค และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งอีก 70 พรรค ที่พร้อมนำนโยบายเด็ดๆ มาฟาดฟันกันในสมรภูมิเลือกตั้งครั้งนี้…

BTimes