ระหว่างคำพูดแทงใจกับการถูกทำร้ายร่างกาย อะไรคือสิ่งที่สมเหตุสมผลและสมควรกระทำมากกว่ากัน

760
0
Share:

ระหว่างคำพูดแทงใจกับการถูกทำร้ายร่างกาย อะไรคือสิ่งที่สมเหตุสมผลและสมควรกระทำมากกว่ากัน - บูลลี่ bully คริส ร็อก วิลล์ สมิธ

เรียกได้ว่าเป็น Talk of the Town ระดับโลกเลยก็ว่าได้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในงานประกาศรางวัลออสการ์ ที่จู่ๆ นักแสดงชื่อดัง ‘วิลล์ สมิธ’ เกิดอาการฟิวส์ขาดกลางงาน เดินปรี่ขึ้นไปตบหน้า ‘คริส ร็อก’ เพื่อนนักแสดงดาวตลกบนเวทีขณะกำลังทำหน้าที่เป็นพิธีกร

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดจากการที่ คริส ร็อก ได้พูดจาแซว เจดา พินเก็ตต์ สมิธ ภรรยาสุดที่รักของวิลล์ สมิธ ที่กำลังป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) จนต้องโกนผม ว่าเหมาะที่จะเล่นหนังเรื่อง G.I. Jane โดยตัวละครเอกหญิงในเรื่องต้องโกนหัวเพราะเป็นทหาร ซึ่งโรคนี้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ไปทำลายต่อมรากผม ส่งผลให้มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ลักษณะเป็นวงกลมเท่าเหรียญขนาดใหญ่ โดยโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยแต่มักเกิดกับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ซึ่งในปัจจุบันโรคนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็เกิดเป็นกระแสวิพากษ์พิจารณ์ต่างๆ นานา โดยได้มีการแสดงความคิดเห็นทั้งในมุมที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ วิลล์ สมิธ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเพื่อนนักแสดงด้วยกัน หรือแฟนๆ ทั่วโลกที่ติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด จึงได้เกิดเป็นข้อถกเถียง โดยฝั่งที่เห็นด้วยและเข้าใจในการแสดงออกของเขาก็ได้บอกว่า วิลล์ สมิธนั้นได้ทำในสิ่งที่สมควร เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของภรรยาที่เขารัก เพราะคำพูดของคริส ร็อก ได้แสดงออกถึงการบูลลี่ และเป็นการใช้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจ เนื่องจากเป็นการเอาปมด้อยของคนอื่นมาพูดล้อเลียนจนกลายเป็นเรื่องตลก

โดยกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับการโต้ตอบในครั้งนี้ของวิลล์ สมิธนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย ที่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการพูดจาบูลลี่ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่ควรกระทำ แต่ในทางกลับกันในฝั่งของทวีปยุโรป ได้มีเพื่อนนักแสดงและกลุ่มแฟนคลับที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังในการแก้ปัญหาครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้จัดงานยังได้ออกมาเน้นย้ำว่าไม่ยอมรับความรุนแรงในทุกรูปแบบ และกำลังตรวจสอบอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนมองหาบทลงโทษเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ มาตรฐานความประพฤติ และกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย โดยหลายฝ่ายได้มีการเรียกร้องให้ยึดรางวัลออสการ์จากวิลล์ สมิธด้วย แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจน ทางฝั่งของคริส ร็อกก็ยืนยันว่าจะไม่ดำเนินคดีกับวิลล์ สมิธแต่อย่างใด

แล้วในมุมมองของทุกคน คิดว่าการกระทำใดที่ถือว่ามีความผิดมากกว่ากัน ระหว่างการพูดจาส่อเสียดทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ หรือการทำร้ายร่างกายที่ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ ซึ่งทั้งหมดก็คงต้องแล้วแต่มุมของเฉพาะบุคคลและเฉพาะกรณี เพราะถ้านึกย้อนกลับดูเหตุและผลนั้นจะเห็นได้ว่าถ้า คริส ร็อก ไม่พูดจาพาดพิงคนอื่นก่อน เหตุการณ์ที่ วิลล์ สมิธ จะลุกขึ้นไปต่อยหน้ากลางงานประกาศรางวัลก็คงไม่เกิด สุดท้ายในฐานะที่เราเป็นเพียงคนนอกที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ควรใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์ แยกแยะ และไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินจนเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วต่างคนก็ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองทั้งสิ้น

ทีมงาน BTimes ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟนเพจทุกคนที่ได้ติดตามข่าวนี้ จะนำสิ่งที่ได้วิเคราะห์จากเหตุการณ์ดังกล่าวมาเพื่อปรับใช้เรียนรู้ และเป็นกรณีศึกษาให้กับตัวเอง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การวิจารณ์อย่างไร้เหตุผล เพราะบางครั้งการบูลลี่ และการทำร้ายร่างกาย ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดเรื่องที่ดีเสมอไป อย่างไรแล้วก็อยากให้ทุกคนเสพข่าวกันอย่างมีสติ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในข่าวมากเกินไป เดี๋ยวจะเครียดจนเสียสุขภาพนะคะ ทีมงาน BTimes เป็นห่วงค่ะ

BTimes