ทิ้งทวนส่งท้ายปีวัวทองต้อนรับปีเสือ(พ่น)ไฟ ประเทศไทยเงินเฟ้อหนัก ทั้งโรคระบาดก็ยังไม่ซา

1181
0
Share:

เงินเฟ้อ หมู ทิ้งทวนส่งท้ายปีวัวทองต้อนรับปีเสือ(พ่น)ไฟ ประเทศไทยเงินเฟ้อหนัก ทั้งโรคระบาดก็ยังไม่ซา

เรียกได้ว่าตลอดทั้งปีที่ผ่านมาต้องปรบมือให้กับคนไทย เพราะคนไทยเก่งมากที่สามารถพาตัวเองก้าวผ่านทุกสถานการณ์จนถึงสิ้นปี ไม่ว่าจะเป็นการเอาตัวรอดจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 หรือแม้กระทั่งพิษเศรษฐกิจที่นับว่ายับเยินกันพอสมควร

แต่ถึงกระนั้น วิบากกรรมของคนไทยก็ยังไม่จบสิ้น เพราะผลพวงจากค่าเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศไทยในปี 2564 สูงขึ้นถึง 1.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าในช่วง 2-3 เดือนแรกของปี 2565 อัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงขึ้น จากสาเหตุนี้ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายอย่างดีดตัวสูงขึ้น ล่าสุดราคาหมูเนื้อแดงที่พุ่งจากหลักร้อยขึ้นมาเป็นหลักสองร้อย ทั้งยังมีแนวโน้มว่าหลังปีใหม่อาจจะขยับขึ้นไปอีก เนื่องด้วยความต้องการในการบริโภคเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับผลผลิตที่น้อยลงถึง 40% โดยคาดว่ามาจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF นอกจากนี้ยังพบปัญหาในเรื่องต้นทุนของอาหารสัตว์ที่มีราคาสูงขึ้นด้วย ซึ่งสาเหตุนี้ส่งผลกระทบต่อความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความสุขกับเทศกาลปีใหม่เช่นนี้

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการร้องเรียนจากประชาชนถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ได้ให้ความช่วยเหลือชั่วคราวด้วยการจัดให้มีจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก รวมถึงมีการจัดรถโมบายกระจายไปยังจุดต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ปัญหาก็ไม่ได้ถูกแก้ไขที่ต้นเหตุซ้ำยังถูกลากยาวเรื่อยมา ทำให้ร้านอาหารที่จำเป็นต้องใช้หมูเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารต่างตบเท้าขอขึ้นราคา เนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นผู้บริโภค เพราะถึงแม้ค่าครองชีพจะสูงขึ้น แต่รายรับกลับเท่าเดิม ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ 10 ปีผ่านไป ค่าแรงขั้นต่ำคนไทยยังคงที่ที่ 300 บาท

หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้คนไทยก็ประสบกับปัญหาผักแพงจากสถานการณ์น้ำท่วม หรือแม้กระทั่งราคาน้ำมันพุ่งทะยานจนแทบเป็นลม จึงเห็นได้ว่าการเกิดเป็นคนไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีคุณสมบัติเด่นคือมีความอดทน สามารถแบกรับปัญหาได้ทุกรูปแบบ ทั้งยังต้องประคับประคองรักษาสุขภาพ เพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่พรากความสุขไปตลอดทั้งปี และดูเหมือนว่าจะยังไม่จบง่ายๆ เห็นได้จากหลังจบเทศกาลแห่งความสุข ประชาชนคนไทยจะต้องรับมืออย่างหนักกับสายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังลุกลามขั้นรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

เงินเฟ้อส่งผลให้ของขึ้นราคา แล้วถ้าเงินเลิกเฟ้อของจะกลับมาราคาลงหรือไม่ เป็นคำถามที่ค้างคาใจทุกครั้งที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่จากอดีตที่ผ่านมาแทบจะไม่เคยเห็นว่าจะมีการปรับราคาลงตามค่าเงินเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังมีแต่จะขึ้นแล้วขึ้นเลยชนิดที่ไม่เคยรู้จักคำว่าลด

ถึงอย่างไร ทีมงาน BTimes ก็หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ประเทศไทยและแฟนเพจทุกคนจะประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆ มีความสุขกันถ้วนหน้า หากใครไปฉลองปีใหม่ก็อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ อย่าลืมว่าโควิด-19 ยังไม่หายไป ดังนั้นขอให้ดูแลตัวเองกันดีๆ แล้วพบกันใหม่ในปี 2565 สวัสดีปีใหม่ค่ะ

BTimes