ชะตาชีวิตคู่ลมหายใจคนไทย ที่ต้องจ่ายแพง 400-800 บาทต่อชุดตรวจ Rapid Antigen Test ด้วยความหวังจะไม่ติดเชื้อโควิด-19
ทุกวันนี้คนไทยแทบจะไม่ได้มีหน้าที่แค่การเป็นพลเมือง แต่ยังขับเคลื่อนประเทศด้วยการเป็นสำนักข่าว ร่วมส่งต่อข้อเท็จจริงที่ได้รับมาแบบปัจจุบันทันด่วนผ่านโซเชียลมีเดีย โดยสิ่งแรกที่หลายคนมักทำหลังตื่นนอน และสิ่งสุดท้ายก่อนหลับตานอน คือการจับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนการเล่นมือถือคงเป็นเพียงการดูข้อมูลทั่วไป หรือเล่นเกมที่ชอบเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าสิ่งที่คนให้ความสนใจกลับเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง รวมถึงจำนวนยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 ทั้งในประเทศและรอบโลก จากสำนักข่าวออนไลน์ หรือสำนักข่าวออฟไลน์ทางโทรทัศน์
สำหรับในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้คนไทยตระหนกตกใจเป็นอย่างมากคือ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งทะยานเกือบแตะ 5 หลัก รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตที่เฉียดร้อยรายต่อวัน จนทำให้รัฐบาลมีคำสั่งล็อกดาวน์พื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้มเป็นเวลา 14 วัน และขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และวันนี้ (17 กรกฎาคม 2564) สิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อยอดผู้ติดเชื้อทะลุเพดาน 5 หลักไปอยู่ที่ 10,082 ราย เสียชีวิต 141 ราย นับเป็นสถิติที่น่าหดหู่ใจยิ่งนัก…
นอกจากจะประกาศล็อกดาวน์ ทางรัฐบาลยังจัดตั้งหน่วยตรวจโควิดเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการตรวจแก่ประชาชนที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง หรือมีผู้ใกล้ชิดติดเชื้อได้เข้ามารับบริการ เนื่องจากเป็นผู้เสี่ยงสูง แต่ดูเหมือนว่าจะมีประชาชนมารับบริการเกินความคาดหมายไปเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นรอคิวข้ามวันข้ามคืน อันจะเห็นได้จากภาพข่าวที่มีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และเป็นภาพที่หดหู่น่าเห็นใจ เพราะประชาชนที่มารอบางคนเป็นผู้สูงอายุ บางคนต้องหอบลูกเล็กเด็กแดงมาปักหลักนอนรอคิว มิหนำซ้ำบางคืนเหมือนฟ้าฝนซ้ำเติม ส่งฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย กลายเป็นอุปสรรคต่อการเฝ้ารอ จนทำให้ประชาชนบางคนถึงกับต้องหลั่งน้ำตาของความทุกข์ทรมานที่ดูเหมือนจะมองไม่เห็นหนทางแห่งการหลุดพ้นได้เลย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวสู่การกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างหนาหูทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ถึงสวัสดิการของคนไทยในฐานะผู้เสียภาษี และการบริหารงานของรัฐบาลที่ควรมีวิธีการจัดการที่รวดเร็วและเป็นระบบมากกว่านี้ อีกทั้งประชาชนเองก็รู้สึกอยากจะช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ จนเริ่มมีความตื่นตัวและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับชุดตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตนเอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Rapid Antigen Test ซึ่งบางประเทศมีการอนุญาตให้ใช้มานานแล้ว และปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายทั่วไปในร้านสะดวกซื้อ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30 บาทไทยเท่านั้น แต่เนื่องจากในประเทศไทยตอนนี้ Rapid Antigen Test เป็นเรื่องใหม่ ทั้งยังมีการใช้ในวงแคบ รวมถึงเป็นอุปกรณ์หายาก ซ้ำยังขาดตลาดอีกด้วย ทำให้ราคาที่ซื้อขายกันในโลกออนไลน์พุ่งสูงถึง 400–800 บาท ถือเป็นราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของคนไทย แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ได้แจ้งออกมาแล้วว่าจะพยายามจัดหามาจำหน่ายให้ได้ในราคาไม่เกิน 400 บาท หลังจากมีการเคาะอนุญาตให้สามารถซื้อมาตรวจได้เองที่บ้านได้
ณ ตอนนี้เชื่อว่าหากผู้บริหารบ้านเมืองมีวิธีที่สามารถหยุด หรือยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ โดยนำเสนอแนวทาง รวมถึงมีการแถลงชี้แจงข้อห้ามและข้อปฏิบัติอย่างชัดเจนไม่ให้เกิดความสับสนเข้าใจผิด เพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตัวไปในแนวทางเดียวกัน ประชาชนก็พร้อมที่จะเปิดใจให้ความร่วมมือ มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือการนำพาประเทศไทยให้รอดพ้นจากมหันตภัยโรคร้ายนี้ ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และเร่งฟื้นฟูประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาขับเคลื่อนได้เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้
ทีมงาน BTimes ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคน ถึงแม้มันจะยาก แต่เชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนค่ะ สู้ๆ นะคะ
