ดูจังหวะ! ประวัติศาสตร์เตือนระวังราคาทองคำเดือนมิถุนายน เปิดจังหวะเข้าลงทุนทองคำ
นายพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิจัยอาวุโส แผนกออสสิริส อินเทลลิเจนซ์ บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยว่าแนวโน้มการลงทุนทองคำในเดือนมิถุนายนยังคงน่าจับตามอง และตลาดเต็มไปด้วยหลากหลายปัจจัยและสถิติในอดีตผ่านมาที่น่าจะเฝ้าระวังการลงทุนทองคำ
สำหรับปัจจัยสำคัญ เริ่มจากการเจรจาปรับเพดานหนี้สหรัฐ ในช่วงระหว่างการเจรจารอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อและทองอาจปรับตัวร่วง หากการเจรจารครั้งนี้บรรลุไปด้วยดี ระวังเกิดการขายออก เพราะปัจจุบันดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเก็งกำไร อาจส่งผลให้ทองปรับตัวขึ้นแทนที่จะลงได้ ในตรงกันข้าม หากการเจรจาครั้งนี้ไม่สำเร็จสหรัฐอาจจะเผชิญการผิดนัดชำระหนี้ในครั้งประวัติศาสตร์ ผลที่ตามมาคือดอลลาร์สหรัฐจะถูกขายอย่างรุนแรง พันธบัตรจะถูกลดเครดิตลงจากสถาบันจัดลำดับต่างๆ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอาจพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ปัจจัยต่อมา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ มองว่าหากตัวเลขแรงงานออกมาดี อาจเพิ่มแนวโน้มโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ในตรงกันข้าม หากเฟดมองว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นอาจทำให้กลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อทอง
ปัจจัยตามมา คือ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ต้องติดตามกันต่อกับตัวเลขเดือนพฤษภาคมว่าเงินเฟ้อจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หากปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจกดดันให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อ นับเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
ปัจจัยดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 0.25% และอาจส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้น อาจทำให้ราคาทองถูกกดดันช่วงก่อนการประชุมและอาจปรับตัวขึ้นหากเฟดส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนปัจจัยสุดท้ายในช่วงปลายเดือนนี้ อยู่ที่การประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ หากมีการขยายตัวเพิ่มค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวแข็งค่าและกดดันราคาทอง
นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่าสถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลาดโลกเดือนมิถุนายน 10 ปีย้อนหลัง พบว่า
1. ราคาทองมีความผันผวนสูง ค่าเฉลี่ย 111 ดอลลาร์ต่อออนซ์
2. ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดลบมากกว่าปิดบวกอยู่ที่ 60%
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน แนวโน้มราคาทองคำคาดอยู่ในช่วงพักตัวบริเวณแนวรับสำคัญบริเวณ 1,950-1,935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับนี้คาดว่าจะมีแรงเทขายออกมามากและอาจปรับตัวลงไปที่แนวรับ 1,907-1,876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถกลับตัวบริเวณแนวรับอาจเห็นทดสอบแนวต้านบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือมากกว่าอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเบรคเหนือแนวต้าน 1,986 ดอลลาร์ต่อออนซ์
