ภาคเอกชนยิ้มรับรัฐลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย เชื่อจะช่วยให้ราคาสินค้าทรงตัว

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลได้เพิ่มการปรับลดค่าไฟฟ้าให้มากขึ้นจากมติ ครม. เดิมเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ปรับค่าไฟลงจาก 4.35 เหลือ 4.10 บาท และที่ประชุมครม. วันนี้มีมติให้ปรับลดลงอีกเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยเริ่มตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายนนี้ทันที
เบื้องต้นถือเป็นข่าวดีเป็นของขวัญที่รัฐบาลมอบให้กับประชาชนคนไทย และเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อด้านจิตวิทยาและจะมีผลต่อราคาสินค้าให้ทรงตัวหรือปรับลดลงได้ 3-5% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและสต๊อกสินค้าเดิมที่มีอยู่ เนื่องจากต้นทุนค่าไฟคิดเป็นต้นทุน 10-20% ของต้นทุนราคาสินค้าช่วยให้คนไทยมีเงินในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย เช่นร้านซักรีด ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ธุรกิจบริการ มีสภาพคล่องที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามมองว่ามาตรการลดค่าไฟครั้งนี้ ยังเป็นมาตรการช่วยเหลือระยะสั้นเท่านั้น แต่ระยะยาวยังต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เหมาะสม ซึ่งคาดหวังว่าในงวดถัดไปจะมีความคืบหน้า
ขณะที่นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่าการลดค่าไฟฟ้าซึ่งล่าสุด มีมติลดเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยเริ่มตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายนนี้ทันทีนั้น มองว่าช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ แต่เตือนว่าเป็นการคิดในอัตราก้าวหน้า ดังนั้นต้องช่วยกันประหยัดพลังงานควบคู่ไปด้วย และเชื่อว่าในระยะถัดไปรัฐบาลจะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนในแง่โครงสร้างอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะการลดราคานี้เป็นเพียงการช่วยระยะสั้น