เอกชนขอให้รัฐช่วยดูแลชุดตรวจ ATK ให้ประชาชน หลังร้านขายยาทำยอดขายพุ่งถึง 50%

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้มีการแจ้งให้หอการค้าจังหวัดและสมาคมการค้าช่วยกำกับดูแลผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกด้วย และเสนอว่าภาครัฐต้องเข้ามาดูแลเรื่องราคาและการเข้าถึงของ ATK ให้มากขึ้น ทั้งในด้านราคาและคุณภาพ เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจหาเชื้อเบื้องต้น ต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย และกระตุ้นให้เกิดการใช้อย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ผู้ประกอบการก็ต้องไม่เอาเปรียบประชาชนในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

ด้านร้านขายยาหลายแห่งที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลราชวิถี โดยส่วนใหญ่เปิดเผยในทิศทางเดียวกันว่า ร้านมียอดขายชุดตรวจหาเชื้อแบบ ATK เพิ่มสูงขึ้น

ผู้จัดการร้านอาคารยาในย่านดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังปีใหม่มานี้ มียอดขายชุดตรวจ ATK เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 50% มีทั้งลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อครั้งละ 1-2ชุด และลูกค้าที่เป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่เหมาซื้อครั้งละหลายกล่อง

โดยที่ร้านมีชุดตรวจATK ให้เลือก 6-7 ยี่ห้อ มีทั้งรูปแบบสวอพเชื้อจากจมูก ตรวจด้วยน้ำลาย และตรวจได้ทั้งสองแบบ

ส่วนราคาขายก็ยังขายในราคาปกติ แบบสวอพ ออกเชื้อในจมูก มีตั้งแต่ราคา 60 บาทจนถึง 200 บาทขึ้นไป ส่วนแบบตรวจน้ำลายมีตั้งแต่ราคา 80 บาทจนไปถึง 160 บาท

ยังคงยืนยันว่า ในช่วงหลังปีใหม่ผ่านมา แม้ประชาชนจะมีความต้องการซื้อมากขึ้น แต่ในภาพรวมยังไม่ถึงขั้นขาดตลาด เช่นเดียวกับ แมสก์ และเจลแอลกอฮอล์

ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าชุดตรวจ ATK ขาดตลาดนั้น อาจเป็นเพราะติดช่วงเทศกาลปีใหม่จึงทำให้บริษัทส่งสินค้าได้ล่าช้า

เจ้าของร้านขายยาย่านห้วยขวาง นายสุวิจักขณ์ ศรีอุดมศักดา เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีประชาชนมาหาซื้อชุดตรวจ ATK เพิ่มขึ้นเช่นกัน วันละไม่ต่ำกว่า 40 ชุด เนื่องจากหลังปีใหม่มานี้ทุกหน่วยงานทุกองค์กรต้องตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าไปทำงาน

ตอนนี้ชุดตรวจแบบสวอพเชื้อจมูกยังมีขาย ส่วนชุดตรวจแบบน้ำลาย ซึ่งตรวจได้ง่ายกว่า เริ่มขาดตลาดหาซื้อยากแล้ว โดยทางร้านไม่มีของขายมาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนราคาขาย ทางร้านก็ยังขายในราคาเดิม ยังไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด

ทั้งนี้แม้ประชาชนจะตื่นกลัวกับสถานการณ์โอไมครอนที่ยอดติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทุกวัน และแห่มาชื้อชุดตรวจ ATK กันมาก แต่ภาพรวมไม่น่าจะขาดตลาด เพราะปัจจุบันมีหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ