กกพ. เล็งเคาะสูตรค่าเอฟทีใหม่ในสัปดาห์นี้ คาดภาคอุตสาหกรรม อาจต้องปรับขึ้นสูง

201
0
Share:
กกพ. เล็งเคาะสูตร ค่าเอฟที ใหม่ในสัปดาห์นี้ คาดภาคอุตสาหกรรม อาจต้องปรับขึ้นสูง

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะสรุปสูตรอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดใหม่เดือนม.ค.-เม.ย.2566 อย่างเป็นทางการ เบื้องต้นอัตราเอฟทีงวดใหม่ ในส่วนของภาคครัวเรือน คาดว่า เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้นโยบายช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 500 หน่วยต่อเดือนให้จ่ายค่าไฟราคาเดิมเท่างวดปัจจุบัน 4.72 บาทต่อหน่วย

ส่วนของภาคอุตสาหกรรม อาจต้องปรับขึ้นสูงเกินกว่า 5 บาท/หน่วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขอย่างชัดเจนได้ เนื่องจาก กกพ.อยู่ระหว่างรอ ปตท. สรุปตัวเลขการคิดราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) สำหรับโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (เอสพีพี) รวมทั้งการพิจารณาจ่ายหนี้ให้กับ กฟผ. จำนวน 1.2 แสนล้านบาทว่า จะมีแนวทางการจ่ายอย่างไร

โดยในการพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่จะต้องให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด ซึ่งในที่ประชุมเคยหารือว่า หากตรึงเฉพาะครัวเรือน แล้วไปโป่งเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ทางภาคอุตสาหกรรม ต้นทุนขึ้น ก็ต้องผลักภาระขึ้นราคาสินค้าให้กับผู้บริโภคอยู่ดี สุดท้ายทางผู้บริโภคก็ได้รับผลกระทบอยู่ดี จึงต้องพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบด้านให้รอบคอบ

ด้าน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าหากรัฐพิจารณาปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)งวดเดือนม.ค.-เม.ย.2566 ที่ปัจจุบันส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับประชาชนอยู่ที่ 4.72 บาท/หน่วย จะกดดันให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าโดยเฉลี่ยราว 5-12% ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(เอฟดีไอ) ที่กำลังย้ายฐานท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย

ดังนั้น ภาครัฐต้องทบทวนโครงสร้างพลังงานของไทยใหม่ เพื่อดูแลค่าพลังงานในระยะยาวให้อยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ไม่ผลักภาระค่าไฟให้กับภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริมให้ครัวเรือนประหยัดไฟฟ้า ซึ่งตรงกันข้ามกับไทย