กรมวิทย์ยอมรับสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ทำอาการป่วยรุนแรงขึ้น

295
0
Share:

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังโอไมครอนสายพันธุ์ BA.2.75 และการวิเคราะห์สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ว่าจากการติดตามสายพันธุ์ พบว่า BA.4 และ BA.5 แซง BA.2 ไปแล้ว จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ 468 คน พบเป็น BA.4 และ BA.5 จำนวน 320 คน เป็น BA.2 จำนวน 143 คน และ BA.1 จำนวน 5 คน ซึ่งหากดูแนวโน้ม การพบ BA.4 และ BA.5 มาจากต่างประเทศถึง 86% และในประเทศ 67% ขณะเดียวกันพบ BA.4 และ BA.5 ในกทม. 80% และ ในต่างจังหวัด 60% และเมื่อแบ่งสัดส่วนระหว่าง BA.4 และ BA.5 จะพบว่าสัดส่วนของ BA.5 มีมากถึง 3 ต่อ 1 หรือคิดเป็น 75% ส่วน BA.4 พบ 25% โดยขณะนี้พบ BA.5 ในพื้นที่ กทม. รองลงมาคือ เชียงใหม่

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนเมื่อมีการเปรียบเทียบการติดเชื้อ BA.4 และ BA.5 ว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ในระหว่างวันที่ 16-22 ก.ค.65 ในพื้นที่ กทม. การติดเชื้อพบว่าไม่มีความรุนแรง 77% ส่วนที่พบว่ามีอาการรุนแรง ทำให้ปอดบวม ใส่ท่อช่วยหายใจ 84% ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่รุนแรง 55% มีอาการรุนแรง 73%

ฉะนั้นจึงอนุมานได้ว่า BA.4 และ BA.5 น่าจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น และเมื่อมีการตรวจสอบย้อนหลังไปอีก 2 สัปดาห์ ก็พบว่า ว่า BA.4 และ BA.5 มีความรุนแรงไม่แตกต่างกัน ส่วน BA.2.75 พบมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง 446 และ 493 ทำให้จับในเซลล์ปอดของมนุษย์มากขึ้น และมีการหลบภูมิคุ้มกัน สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อ BA.2.75 เพียง 1 คน และทั่วโลกพบ 538 คน ซึ่งต้องมีการจับตาต่อเฝ้าระวังต่อไป

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนการสำรวจภูมิคุ้มกันเข็ม 3 กับ BA.5 ในเลือดในห้องปฏิบัติการระดับ 3 พบว่าในสูตรทุกสูตร ระดับภูมิคุ้มกันลด แต่การรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ยังช่วยให้ป้องกันโรคได้อยู่

• สูตรซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วย แอสตราเซเนกา ภูมิคุ้มกันต่อ BA.5 ลดจาก 203.5 เหลือ 89.79
• สูตรซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วย ไฟเซอร์ ภูมิคุ้มกันต่อ BA.5 ลดจาก 345.8 เหลือ 153.8
• สูตรแอสตราฯ 2 เข็ม ตามด้วยไฟเซอร์ ภูมิคุ้มกันต่อ BA.5 ลดจาก 226.2 เหลือ 86.51
• สูตรซิโนแวค+แอสตราฯ ตามด้วยแอสตราฯ ภูมิคุ้มกันต่อ BA.5 ลดจาก 84.60 เหลือ 43.60
และในอนาคตเตรียมมีการศึกษาในการรับวัคซีน 4 เข็ม