กลุ่มประเทศจี 7-ออสเตรเลีย-อียู ประกาศคุมเพดานน้ำมันดิบรัสเซีย 60 ดอลล์ เริ่ม 5 ธ.ค.

250
0
Share:
กลุ่มประเทศจี 7-ออสเตรเลีย-อียู ประกาศคุม เพดานน้ำมันดิบ รัสเซีย 60 ดอลล์ เริ่ม 5 ธ.ค.

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 และประเทศออสเตรเลีย เปิดแถลงการณ์ว่า กลุ่มจี 7 และออสเตรเลีย มีมติประกาศใช้มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบของประเทศรัสเซียที่ราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากที่กลุ่มสหภาพยุโรปสามารถบรรลุมติเอกฉันท์ทั้ง 27 ชาติโดยเฉพาะประเทศโปแลนด์ที่ก่อนหน้านี้ติดขัดเกี่ยวกับระดับเพดานราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่เท่าไหร่

กลุ่มจี 7 ออสเตรเลีย รวมถึงกลุ่มสหภาพยุโรป เตรียมเริ่มบังคับใช้มาตรการดังกล่าวในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ หรืออาจเป็นภายในสุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไป นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว กลุ่มจี 7 ออสเตรเลีย และกลุ่มอียู แถลงต่อไปว่า จะมีแผนปฏิบัติการอื่นๆ ตามมา ที่จะทำให้มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียได้รับผลกระทบ และมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับวัตถุประสงค์ของมาตรการดังกล่าว คือการตัดลดผลกำไรให้ได้มากที่สุดจากรายได้การขายน้ำมันดิบของประเทศรัสเซีย ในขณะเดียวกัน สามารถป้องกันภาวะความผันผวนของราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่อาจมีราคาพุ่งสูงหลังจากในวันที่ 5 ธันวาคมนี้จะเป็นวันที่กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู จะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรห้ามนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซียอย่างสมบูรณ์แบบ

ประธานกลุ่มสหภาพยุโรป นางเออซูลา วอน เดอร์ ลีเยน กล่าวว่า มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบ และการคว่ำบาตรห้ามนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเข้าอียู จะทำให้ประเทศรัสเซียมีรายได้ และผลกำไรจากการส่งออกน้ำมันดิบลดลงอย่างมากแน่นอน มาตรการนี้จะช่วยพวกเราในการสร้างเสถียรภาพด้านราคาน้ำมันดิบตลาดโลก และเกิดประโยชน์กับประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ทั่วโลก ส่วนระดับราคาเพดานน้ำมันดิบที่กำหนดไว้ สามารถปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศในทวีปยุโรปที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรปนั้น มาตรการดังกล่าวอนุญาตให้ประเทศเหล่านั้นยังคงน้ำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซียผ่านทางทะเลได้ แต่ห้ามไม่ให้บริษัทชิปปิ้ง บริษัทประกันภัยและรับประกันภัยต่อ ทำการจัดการขนส่งน้ำมันดิบจากรัสเซียเด็ดขาด ยกเว้นกรณีเดียว คือรัสเซียขายน้ำมันดิบในราคาต่ำกว่าเพดานราคาที่กำหนดไว้เท่านั้น

ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์สุดท้ายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่มสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า กำลังมองหาช่วงราคาที่เหมาะสมในการประกาศใช้มาตรการเพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่าง 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่คณะทูตจากทั้ง 27 ประเทศสมาชิกกลุ่มสภาพยุโรป กำลังพูดคุยหารือข้อเสนอดังกล่าวของกลุ่มจี 7 เพื่อวัตถุประสงค์ในการได้ข้อสรุปเป็นหนึ่งเดียวภายในคืนที่ผ่านมา เนื่องจากมีแนวคิดแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมองว่าราคาเพดานน้ำมันดิบที่เสนอมาอาจสูงเกินไป ได้แก่ โปแลนด์ ลิทัวเนีย และเอสโทเนีย เนื่องจากต้องการให้กำหนดเพดานราคาเท่ากับต้นทุนผลิต ส่วนอีกฝ่ายมองว่าตั้งช่วงเพดานราคาต่ำเกินไป ได้แก่ ไซปรัส กรีซ และมอลต้า

มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ขนส่งทางทะเลที่จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เป็นผลจากการที่น้ำมันดิบรัสเซียจะส่งออกด้วยเรือบรรทุกน้ำมันดิบมากถึง 70-85% ส่วนที่เหลือจะส่งออกทางท่อส่งน้ำมันดิบ ดังนั้น แนวคิดดังกล่าวต้องการที่จะห้ามบริษัทชิปปิ้ง ห้ามบริษัทประกันภัยและประกันภัยต่อในการจัดการตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งน้ำมันรัสเซียไปทั่วโลก กรณีดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น หากรัสเซียขายน้ำมันดิบในราคาตามที่กลุ่มจี 7 และพันธมิตรกำหนดเพดานราคาไว้

สิ่งสำคัญของมาตรนี้ที่จะใช้ได้ผล เนื่องจากบริษัทชิปปิ้ง บริษัทประกันภัยและประกันภัยต่อ ที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆของโลกเกือบทั้งหมดล้วนตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศจี 7 นอกจากนี้ รัสเซียเผชิญความยากลำบากในการขายน้ำมันดิบในราคาตลาดโลก ซึ่งมีราคาสูงกว่ามาตรการราคาเพดานที่กลุ่มจี 7 กำหนดไว้

ในเวลาเดียวกัน เป็นที่รู้กันดีว่าต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่เฉลี่ยบาร์เรลละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบยังคงทำให้รัสเซียขายน้ำมันดิบในราคาที่มีกำไรอยู่บ้าง ซึ่งลดลงจากกำไรที่เคยมีเป็นจำนวนมากเมื่อคิดจากส่วนต่างของราคาตลาดโลก และยังทำให้ไม่เกิดภาวะปริมาณน้ำมันดิบในภาพรวมหดหายไปจากตลาดโลก