กว่าครึ่งของประชากรโลกไม่ได้วัคซีน ยุโรปตะวันออกดันยอดติดโควิด-19 ทั่วโลกแตะ 250 ล้านคน

รอยเตอร์ส เปิดเผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลกเกือบ 2 ปีผ่านมา ทำให้มีประชาชนทั่วโลกติดโควิด-19 สะสมแตะ 250 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย สาเหตุจากศูนย์กลางการระบาดใหม่ คือยุโรปตะวันออกที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นมา เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียเป็นสายพันธุ์หลักของโลก

รอยเตอร์ส เปิดเผยต่อไปว่า ทุกๆ 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือน ทั่วโลกจะมีผู้ติดเชื้อ 50 ล้านราย ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับจำนวนผู้ติดเชื้อ 50 ล้านคนแรกที่ต้องใช้เวลาเกือบ 1 ปี อย่างไรก็ตามในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่ผ่านมา อัตราการติดเชื้อเฉลี่ยรายวันลดลง 36%

สำหรับพื้นที่การระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พบว่า มี 55 ประเทศ หรือ 23% จากทั้งหมด 240 ประเทศที่ยังคงมีการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในทวีปยุโรป และยุโรปตะวันออก ได้แก่ รัสเซีย เยอรมนี กรีซ ยูเครน เป็นต้น

สาเหตุการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคบพบเห็นในขณะนี้ เกิดจากอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่ต่ำ และล่าช้า ซึ่งจะเห็นได้ในยุโรปตะวันออก ทำสถิติทุกๆ 4 วันจะมีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ครบ 1 ล้านราย นอกจากนี้ ความเหลื่อมล้ำในการฉีดวัคซีนทั่วโลก สะท้อนจากกลุ่มประเทศยากจน เช่น ภูมิภาคแอฟริกา ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา กลับได้ฉีดวัคซีนครบโดสไปถึงเข็มบูสเตอร์ ดังนั้น จึงมีประชาชนมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในโลกที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด