ขึ้นดอกแรง! แบงก์ชาติสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยมากสุดในรอบ 22 ปี

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.75% – 1.00% และเริ่มลดมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในรับการเงินสหรัฐอเมริกามูลค่า 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 315 ล้านล้านบาท โดยจะเริ่มลดมาตรการดังกล่าวเดือนละ 47,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.66 ล้านล้านบาท ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ถัดจากนั้นเป็นเวลา 3 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน จะเพิ่มปริมาณการลดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวอีก 2 เท่า
.
การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมาถึง 0.5% ทำสถิติปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่มากที่สุดในรอบ 22 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2000
.
ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อปัจจุบันในสหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับสูงมากเกินไป และธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเข้าใจดีในภาวะยากลำบากที่เป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากเกินไป ดังนั้น ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่จะลดอัตราเงินเฟ้อลงมา ในที่ประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา คณะกรรมการล้วนมีการพูดคุยถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ในการประชุมครั้งต่อไปด้วย
.
นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 0.75% ไม้ได้นำมาพิจารณาอย่างจริงจังในการประชุมหารือเมื่อคืนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามองว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะปรับขึ้นมาอยู่ในเป้าหมายระหว่าง 2-3% ภายในปี 2565
.
อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมีนาคมอยู่ที่ระดับ 8.5% ทำสถิติอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 41 ปี ของสหรัฐอเมริกา
.
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นนับตั้งแต่การประชุมในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้ที่ระดับ 0.25% กระทั่งถึงคืนที่ผ่านมาเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน แต่มีอัตราการปรับสูงขึ้นถึง 0.5% ซึ่งมากที่สุดในรอบ 22 ปี