คนจีนติดโควิด ตาย 2 ตั้งแต่เริ่มผ่อนคลาย ความเชื่อมั่นเอกชนจีนตกต่ำในรอบเฉียด 10 ปี
คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ NPC เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดโรคระบาดโควิด-19 จำนวน 2 รายในกรุงปักกิ่ง ส่งผลเป็นจำนวนผู้เสียชีวิต 2 รายแรกนับตั้งแต่รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายนโยบาย และยุทธศาสตร์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดโควิด-19
ก่อนหน้านี้ ทางการจีนไม่ได้แจ้งจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมผ่านมา แม้ว่ามีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า กำลังมีการระบาดระลอกใหม่ในวงกว้าง
คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 เมื่อรวม 2 รายใหม่รวมเป็นเสียชีวิตสะสมจำนวน 5,237 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 380,453 ราย นับตั้งแต่พบการระบาดเมื่อ 3 ปีก่อน จีนนับผู้เสียชีวิตจากโควิดโดยตรง ไม่นับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ และมีอาการทรุดลงเพราะโควิด
จีนเริ่มผ่อนคลายยุทธศาสตร์คุมโควิดเป็นศูนย์ในเดือนพฤศจิกายน และเดินหน้าผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น หลังจากมีการประท้วงในกรุงปักกิ่งและหลายเมืองใหญ่ นำมาซึ่งกระแสเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และคณะกรรมการในพรรคคอมมิวนิสต์ลาออกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ
รัฐบาลจีนประกาศเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมว่า จะเลิกแจ้งยอดผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ เนื่องจากไม่มีการบังคับตรวจหาเชื้อขนานใหญ่อีกแล้ว ทำให้ไม่สามารถติดตามผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการได้
ขณะที่ ผลสำรวจเศรษฐกิจโลก หรือ World Economics เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งสำรวจผ่านผู้จัดการฝ่ายขายจากมากกว่า 23,000 บริษัทในช่วงระหว่างวันที่ 1-16 ธันวาคมผ่านมา โดยเป็นดัชนีประจำเดือนธันวาคม 2565 พบว่าร่วงลงต่ำกว่า 50% โดยลดลงมาอยู่ที่ 48.1% จากในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 51.8% ที่สำคัญ ดัชนีดังกล่าวในเดือนธันวาคม 2565 ทำสถิติดำดิ่งลึกสุดในรอบเกือบ 10 ปี หรือนับตั้งแต่เริ่มจัดทำผลสำรวจดัชนีดังกล่าวในเดือนมกราคม ปี 2013
สาเหตุที่ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจจีนแผ่นดินใหญ่ดำดิ่งรุนแรงในรอบเฉียด 10 ปี เป็นผลจากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางการจีนผ่อนคลายนโยบายและมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้างมากขึ้นทั่วประเทศ
ผลสำรวจดังกล่าวยังประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยที่จะเกิดขึ้นกับจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2023 นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวต่ำกว่า 3% ซึ่งจะทำสถิติการขยายตัวที่ตกต่ำเลวร้ายที่สุดในรอบ 52 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา
