“ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม” แฉเหตุต้องซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำเพราะนายกฯ ไปรับปากจีน

“ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม” แฉเหตุต้องซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำเพราะนายกฯ ไปรับปากจีนไว้ พร้อมขอสู้ต่อเพราะไม่เห็นด้วย ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนกำลังเดือดร้อน
.
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี อนุฯกมธ.ครุภัณฑ์ฯ มีมติเห็นชอบ การจัดซื้อเรือดำน้ำ ของกองทัพเรือ 2 ลำ มูลค่ากว่า 22,500 ล้านบาท ว่า ในการพิจารณาของอนุฯกมธ.ที่ผ่านมา พิจารณาด้วยดีมาตลอดไม่มีปัญหา การลงมติเรามีทิศทางใช้หลักเหตุผล กับเรื่องของเม็ดเงินในการพิจารณา
.
แม้กระทั่งงบประมาณกองทัพบก ในบางเรื่องที่มีความจำเป็น ยังอนุโลมให้ แต่การพิจารณาเรื่อง “เรือดำน้ำ” เราเห็นว่า มีอยู่ลำหนึ่งแล้ว อนุฯกมธ.มีความเห็นเป็น 2 แนวทาง คือ ยกเลิกไปเลย และชะลอไว้ก่อน
.
ส่วนตัวมองว่า ควรยกเลิก เพราะสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ถือว่า ยังไม่เหมาะ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาโควิด-19 หากเมื่อไรเศรษฐกิจกลับมาดี ประชาชนอยู่กินดี จะซื้อ 4-5 ลำ ตนก็ไม่ขัดข้อง แต่ในขณะนี้ยังไม่ใช่ ถ้าไม่ยกเลิกก็ขอให้ชะลอออกไปก่อน
.
ตนถามทหารที่มาชี้แจงว่า ถ้าไม่ซื้อจะเกิดความเสียหายอะไรหรือไม่ มีการทำข้อตกลงอะไรไว้หรือไม่ ผู้ชี้แจงตอบว่า ไม่มี เพียงแต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และคณะ ไปรับปากกับจีนไว้ตั้งแต่ไปซื้อลำแรกมาว่า จะซื้ออีก 2 ลำ ได้มีการต่อรองว่า ซื้อลำนึงก่อนได้หรือไม่ แต่ผู้ชี้แจงยืนยันว่า จำเป็นต้องซื้อ 2 ลำ
.
โดยลำแรกที่ซื้อมากว่าจะได้ใช้ปี 2567 หากซื้อเพิ่มอีก 2 ลำ ไม่รู้จะได้ใช้ปีไหน หากซื้อเป็นปัญหาแน่ๆ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลกู้เงินมากว่า 2 ล้านล้าน 1 ล้านล้านแรกใช้เรื่องโควิด-19 เรื่องเยียวยา เรื่องฟื้นฟู ส่วนอีก 1 ล้านล้าน เอามาชดเชยงบขาดดุลที่รัฐบาลตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี นี้แค่เพียงสองปีติดต่อ คือ ปี 2563/2564
.
ยังไม่อยากกล่าวย้อนหลังที่ผ่านมาปีก่อนๆ นอกจากนี้คนที่เดือดร้อน คือ ชาวบ้าน เพราะต้องมีการเก็บภาษีเพิ่ม ตอนนี้ โรงงานหยุดคนตกงาน นายกฯ มองแต่เรื่องความมั่นคงของตัวเอง ความมั่นคงของประเทศ ท่านไม่เข้าใจบริบทเศรษฐกิจ ใครจะเป็นจะตายท่านไม่สนใจ เดินข้ามความอดอยากชาวบ้าน รักเรือดำน้ำมากกว่าประชาชน การบริหารประเทศ ก็คิดแต่จะแจกเงินแต่หาเงินไม่เป็น
.
เรื่องนี้ตนไม่ยุติ แม้จะโหวตแพ้โหวต แต่ตนตั้งข้อสังเกตไว้ในบันทึกการประชุม จะขอใช้สิทธิในวาระที่ 2 ขออภิปรายต่อ และหากมีโอกาสจะขอไปชี้แจง กมธ.งบคณะใหญ่ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แบบไม่ลงมติที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน.