จีนทุบส่งออกผลไม้ไทย คาดล้นตลาดลากราคาทุเรียนตกต่ำกว่าโลละ 100 บาท

นายไพบูลย์ วงศ์โชติสถิต ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนจากนี้ไป คือระหว่างเมษายนถึงพฤษภาคม ประเทศไทยจะเผชิญผลผลิตด้านผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทุเรียนและมังคุด ประกอบกับทางการจีนให้ความสำคัญกับนโยบายไม่อยู่ร่วมโรคระบาดโควิด-19 ไม่เว้นแม้แต่การปนเปื้อนโควิด-19 ในผลไม้ที่นำเข้าจากประเทศไทย จึงทำให้เกิดความกังวลที่ชัดเจน คือผลกระทบที่ไม่สามารถส่งออกผลไม้ได้ ทำให้ผลผลิตผลไม้ล้นตลาด นำไปสู่ราคาผลไม้ตกต่ำ

ยกตัวอย่างผลไม้เกรดส่งออก เช่น ทุเรียนที่มีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 80-90% ราคาอาจจะตกลงจากปัจจุบัน 120 บาท/กิโลกรัม เหลือต่ำกว่า 100 บาท/กิโลกรัม แล้วราคาจะดีดสูงขึ้นช่วงมิถุนายน เพราะผลผลิตทุเรียนเริ่มน้อย คาดว่าราคาอาจจะสูงถึง 150 บาท/กิโลกรัม ส่วนมังคุดราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาท/กิโลกรัม ขณะที่มะม่วงราคาขายดีกว่าทุกปี จากปีก่อน 20-25 บาท/กิโลกรัม ปีนี้อยู่ที่ 30-40 บาท/กิโลกรัม

ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ให้ความเข้มงวดตรวจสอบโควิดผลไม้ที่ด่านโหย่วอี้กวน ด่านตงชิง และด่านโม่ฮาน หากตรวจพบการปนเปื้อนของโรคระบาดโควิด-19 บนผลไม้ รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่สั่งปิดด่านทันที 15 วัน ทำให้ที่ผ่านมาภาพการขนส่งผลไม้ผ่านด่านทางบก จึงมีลักษณะเป็นแบบเปิดๆปิดๆ สิ่งนี้กระทบความมั่นใจของลูกค้ามาก ทำให้ไม่กล้าสั่งซื้อ เพราะสินค้าล่าช้า เกิดสินค้าตกค้างที่ด่านจำนวนมาก คาดว่าจะมีปัญหายืดเยื้อไปถึงเดือนมิถุนายน 2565

ทั้งนี้ การส่งออกผลไม้ไทยไปยังตลาดหลัก คือจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องพึ่งพาส่งออกผ่านด่านทางบก 90% สาเหตุจากค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกที่สุด ส่วนที่เหลือส่งผ่านทางเรือ 7-8% และทางอากาศ 1-2% ซึ่งค่าระวางสูง ต้นทุนค่าขนส่งแพงเมื่อเทียบการขนส่งทางบก