ชาวจีน 7 รายติดโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นดโควิด-19 รายใหม่ในจีนมากสุดในรอบ 6 เดือนเป็นวันที่ 2 อีก 90 ราย เกินครึ่งติดในประเทศรับสายพันธุ์เดลต้า

552
0
Share:

สาธารณสุขเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เปิดเผยว่า ตรวจพบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 จำนวน 7 ราย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีที่เมืองอู่ฮั่นซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดโรคโควิด-19 ของจีนและของโลก และเป็นที่แรกของโลก กลับมาพบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สำหรับทั้ง 7 รายเป็นแรงงานต่างถิ่นที่ทำงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอู่ฮั่น ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายแซ่ถัง เขาติดเชื้อมาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจากมณฑลเจียงซู ซึ่งเดินทางมายังสถานีรถไฟมณฑลหูเป่ย โดยชายคนดังกล่าวเปิดเผยว่า ได้ยืนรอรถไฟที่สถานีรถไฟเมืองจิงโจว ในมณฑลหูเป่ยในเวลาเดียวกันมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากมณฑลเจียงซู กำลังยืนรอรถไฟด้วย และมาทราบภายหลังว่า สมาชิกของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถูกตรวจพบติดโรคระบาดโควิด-19

รัฐบาลท้องถิ่นเมืองมณฑลหูเป่ยสั่งให้มีการระดมตรวจประชาชนทั้งหมด 11 ล้านคนในเมืองอู่ฮั่นทันที เพื่อป้องกันในเชิงรุกกับโอกาสกลับมาแพร่ระบาดครั้งใหม่ในเมืองอู่ฮั่น

คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงมาถึงวันนี้ 3 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 90 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันทากที่สุดในรอบ 6 เดือน 1 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2564 ซึ่งในวันนั้นพบผู้ติดเชื้อรายวัน 82 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมรวมเป็น 93,193 ราย อยู่อันดับที่ 107 ของโลก และไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมทรงตัวที่ 4,636 ราย

จำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน 98 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา แบ่งเป็นติดเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่ 61 ราย หรือ 62% ส่วนที่เหลือ 29 ราย หรือ 38% มาจากต่างประเทศ ขณะที่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการเป็น 41 ราย และมีผู้ป่วยไม่แสดงอาการสะสม 499 รายที่เฝ้าสังเกตอาการต่อเนื่อง

ในสัปดาห์ที่ผ่านไป เมืองหนานจิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของจีนแผ่นดินใหญ่ และเป็นเมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของจีนแผ่นดินใหญ่ภายในระยะกว่าสัปดาห์กว่าที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระจายไปมากกว่า 300 ราย รวมถึงติดเชื้อไปอย่างน้อยใน 27 เมืองที่กระจายใน 18 มณฑล รวมถึงกรุงปักกิ่งที่พบผู้ติดเชื้อ 3 รายใหม่เมื่อวานนี้ และเมืองเสฉวนที่อยู่ในมณฑลเฉิงตู

รัฐบาลกรุงปักกิ่งประกาศมาตรการสั่งห้ามประชาชน รถยนต์และรถสาธารณะ เครื่องบิน และรถไฟที่มาจากจังหวัด และมณฑลที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 เข้ากรุงปักกิ่งเด็ดขาด เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคจีน เปิดเผยว่า ได้เปรียบเทียบผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งกับผู้ติดเชื้อที่เมืองหนานจิง พบว่าเป็นวงรอบการติดเชื้อเดียวกัน

สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ถูกพบในเมืองจางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของจีนและระดับโลก ซึ่งอยู่ในมณฑลหูหนาน โดยเมื่อวานนี้ 1 สิงหาคม รัฐบาลท้องถิ่นสั่งปิดจุดท่องเที่ยวทุกแห่งในเมืองจางเจียเจี้ย และนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดราว 11,000 ราย ไปทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อทางเดินหายใจในจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อในขณะนี้ถูกตรวจพบ 4 จาก 8 รายที่มีประวัติเชื่อมโยงกับจุดแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองจางเจียเจี้ย อยู่ที่โรงมหรสพ Meili Xiangxi Grand Theatre โดยในการแสดงแต่ละรอบจะมีผู้เข้าชมในโรงมหรสพนี้ถึง 2,000 คน จึงเป็นความน่ากังวลอย่างมากหากพบการระบาดเพิ่มมากขึ้น

เมื่อวานนี้ รัฐบาลท้องถิ่นสั่งยกเลิกทุกเที่ยวบินจากสนามบินนานาชาติที่เมืองหนานจิง สั่งกักตัวประชาชนจำนวน 1,600 รายที่บ้านพัก ซึ่งมีประวัติเชื่อมโยงกับสนามบินนานาชาติหลูโข่วในเมืองหนานจิง ที่สำคัญสั่งห้ามเดินทางออกนอกเมืองหนานจิงด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในจีนแผ่นดินใหญ่ มองว่าภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้เป็นช่วงเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคมที่พึ่งผ่านไป พบว่ามีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ หรือเป็นการแพร่ระบาดภายในประเทศสะสมเป็น 328 ราย ซึ่งมีจำนวนรวมใกล้เคียงกับผู้ติดเชื้อในช่วงตลอด 5 เดือนก่อนถึงเดือนกรกฎาคม

จีนแผ่นดินใหญ่เผชิญกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ พบการติดเชื้อรายใหม่ 2 รายในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 โดยเป็นคู่สามีและภรรยาที่เมื่อเร็วๆนี้ได้เดินทางไปยังมณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นแหล่งที่เชื่อมโยงกับแหล่งระบาดโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่ได้ทำการกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดสองสามีภรรยาไว้แล้วเพื่อเฝ้านสังเกตอาการ การพบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 จำนวน 2 รายในกรุงปักกิ่งกลายเป็นการพบเชื้อครั้งแรกในรอบเกือบ 6 เดือนผ่านมา

สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในมณฑลหนานจิง ซึ่งมีประชากรมากกว่า 9.3 ล้านคน และมีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่าวันละ 2 หลักเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันนั้น มีสาเหตุจากการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของสนามบินนานาชาติหลูโข่วจำนวน 9 รายในมณฑลดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดชุดดังกล่าวติดเชื้อเกิดจากได้ขึ้นไปทำความสะอาดภายในห้องโดยสารของเที่ยวบินหนึ่งที่มาจากประเทศรัสเซีย ซึ่งผลการตรวจหาเชื้อของพนักงานทำความสะอาดที่ติดเชื้อนั้นไปตรงกับเชื้อที่ตรวจพบในตัวผู้โดยสารที่มาจากรัสเซียในเที่ยวบินดังกล่าว

ล่าสุด ข้อมูลถึงวันนี้ 31 กรกฎาคม คลัสเตอร์สนามบินดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สะสมกว่า 184 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของสนามบินนานาชาติหลูโข่วจำนวนกว่า 60 ราย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เกิดในมณฑลยูนนาน พบว่ามีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เดินทางกลับมาจากประเทศเมียนมารวมสะสมเป็น 41 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่ติดเชื้อจากเมียนมา และพบว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย ที่มีความรุนแรงในการแพร่ระบาดของโรคอย่างมาก มณฑลยูนนานเริ่มพบการระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่นับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา