ช็อคเมืองน้ำหอม! ฝรั่งเศสติดโควิด-19 กว่า 32,000 มากสุดในเกือบ 7 เดือน
ประเทศฝรั่งเศสซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในยุโรป ต้องเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 5 ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รอบ 24 ชั่วโมงเพิ่มสูงมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุข ฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 มีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 พุ่งขึ้น 32,591 ราย ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 รวมสะสมเป็น 7,483,282 ราย อยู่อันดับที่ 7 ของโลก และเป็นอันดับที่ 4 ในยุโรป ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่พุ่งขึ้น 81 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 118,734 ราย
ในสัปดาห์นี้ อัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในฝรั่งเศสทะยานสูงขึ้นถึง 61% เมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยมีอัตราติดเชื้อเฉลี่ยในช่วง 7 วันติดต่อกันถึงวันละกว่า 20,000 ราย ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา สอดรับกับจำนวนผู้ป่วยอาการไอซียูเพิ่มสะสมเป็น 1,455 ราย นอกจากนี้ ฝรั่งเศสทำสถิติติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเกินกว่าวันละ 30,000 รายเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครอง กล่าวว่า ฝรั่งเศสไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ประชาชนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เหมือนประเทศอื่นๆในยุโรป เนื่องจากมีความมั่นใจในมาตรการการบังคับใช้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนของประชาชนที่ต้องแสดงทุกครั้งก่อนใช้บริการในสถานที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวฝรั่งเศสออกมาเดินขบวนให้รัฐบาลฝรั่งเศสยกเลิกมาตรการดังกล่าว
รัฐบาลฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ภายในวันพฤหัสบดีนี้ เตรียมประกาศให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่สามกับประชาชนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งก่อนหน้านี้อนุญาตให้ฉีดเข็มที่สามเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป สำหรับมาตรการเริ่มฉีดเข็มบูสเตอร์ให้ประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไปจะเริ่มในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ รวมถึงประกาศใช้มาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงการแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างเข้มข้นมากขึ้น
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็น 1 ใน 63 ประเทศกลุ่มเสี่ยงต่ำที่ประเทศไทยประกาศอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจรับรอง สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
