ซื้อขายของออนไลน์-อีคอมเมิร์สในไทยหมดแรง คาดโตต่ำสุดในรอบ 3 ปี

439
0
Share:
อีคอมเมิร์ส

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์โรคระบาด และผลกระทบจากสถานการณ์ในยูเครนที่อาจยืดเยื้อ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้คาดว่าปี 2565 ธุรกิจบีทูซี หรือขายระหว่างบริษัทกับลูกค้าผู้บริโภคขั้นสุดท้าย อีคอมเมิร์ซ กลุ่มสินค้า แม้อาจขยายตัวราว 13.5% คิดเป็นมูลค่าตลาดราว 5.65 แสนล้านบาท แต่เป็นการขยายตัวที่ชะลอลง และต่ำสุดเทียบกับ 3 ปีก่อนที่ขยายตัวเฉลี่ย 40% ต่อปี

อีกทั้งผู้บริโภคมีการวางแผนปรับลดการใช้จ่ายผ่านหน้าร้านมาเป็นการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ภายใต้งบประมาณที่ยังคงจำกัดหรือไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม โดยคาดว่าส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจ บีทูซี อีคอมเมิร์ซ กลุ่มสินค้าจะขยับเพิ่มขึ้นจาก 14% ในปี 2564 เป็น 16% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดค้าปลีกสินค้ารวมทั้งหมด

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ค่าขนส่งสินค้าที่อาจแพงขึ้นตามราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภาพรวมการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องวางแผนรับมือปัจจัยท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการออนไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค