ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดำดิ่งหนักกว่า 780 จุด ฉุดทั้งตลาดหุ้นนิวยอร์ก

370
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) เวลา 10.25 น. หรือ 21.25 น.(เวลาไทย) ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งดิ่งอย่างรุนแรง โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์อยู่ที่ระดับ 30,608 จุด -784 จุด หรือ -2.50% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,774 จุด -126 จุด หรือ -3.24% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 10,905 จุด -434 จุด หรือ -3.83%

ก่อนเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในคืนนี้ 13 มิถุนายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) เมื่อเวลา 9.25 น. ดัชนีหุ้นล่วงหน้าร่วงลงอย่างรุนแรงทั้ง 3 ดัชนีหุ้นสำคัญ โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์อยู่ที่ระดับ 30,733 จุด -626 จุด หรือ -2.00% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,806 จุด -93 จุด หรือ -2.40% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,534 จุด -343 จุด หรือ -2.89%

สาเหตุจาก เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,392 จุด -880 จุด หรือ -2.73% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,900 จุด -116 จุด หรือ -2.91% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,340 จุด -414 จุด หรือ -3.52% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งดิ่งระนาว -4.58%, -5.05% และ -5.60% ตามลำดับ ทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ในรอบ 5 เดือนผ่านมา โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์รายสัปดาห์ทรุดเป็นสัปดาห์ที่ 10 จาก 11 สัปดาห์ และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคทรุดเป็นสัปดาห์ที่ 10 จาก 9 สัปดาห์

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมพุ่งทะยานแตะ 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ทำสถิติอัตราเงินเฟ้อเร่งขึ้นสูงสุดในรอบ 41 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวพุ่งสูงถึง 1% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหาร พุ่งสูงถึง 6.0% การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมดังกล่าว ยังพบว่าพุ่งสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเงินเฟ้อทั่วไป และขั้นพื้นฐานในเดือนพฤษภาคมของสหรัฐอเมริกา ถูกคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.3% และ 5.9% ตามลำดับ

ทั้งนี้ นักลงทุนรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่จะเริ่มประชุมในวันที่ 14 และ 15 นี้ ซึ่งมีความเป็นไปไม่ได้สูงมากที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 0.5% หากเป็นไปตามที่ประเมินไว้ จะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี