ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 600 จุด น้ำมันดิบร่วงปิดพุ่งเหนือ 113 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,880 จุด +618 จุด หรือ +1.98% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,973 จุด +72 จุด หรือ +1.86% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,535 จุด +180 จุด หรือ +1.59%
ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ร่วงหนัก -2.9%, -3.0% และ -3.8% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 99 ปี หรือตั้งแต่ปี 1923 ในขณะที่ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อหุ้นที่มีราคาร่วงตกต่ำอย่างรุนแรงในช่วงตลอดกว่า 7 สัปดาห์ผ่านมา ที่ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่งถูกถล่มเทขายอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินมีความคึกคักตลอดทั้งคืนผ่านมา ตามด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากซูม (Zoom) เจ้าของแอปพลิเคชั่นประชุมออนไลน์มีผลประกอบการออกมาดี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงประเมินสถานการณ์การลงทุนท่ามกลางปัจจัยลบของภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเกิดภาวะถดถอย
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 110.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.01% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 113.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.7% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา
สาเหตุจากทางการท้องถิ่นในนครเซี่ยงไฮ้เตรียมจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของเมืองดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 หลังจากสถานการณ์ระบาดเริ่มดีขึ้นบ้าง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,851.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +8.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.12% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น +1.9% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ผ่านมา
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลงเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นทรงตัวระดับ 3% ซึ่งเคยเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้
