ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงเกือบ 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือกว่า 86 ดอลลาร์

278
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดร่วงเกือบ 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือกว่า 86 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,395 จุด -194 จุด หรือ -0.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,076 จุด -3 จุด หรือ -0.09% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,482 จุด +14 จุด หรือ +0.13%

ในเดือนพฤศจิกายนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปรับสูงขึ้น +5.67%, +5.38% และ +4.37% สำหรับดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 กลายเป็นดัชนีหุ้นรายเดือนที่ปิดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่สิงหาคม ปี 2021 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีหุ้นนาสแดครายเดือนสามารถปิดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดกันในรอบ 11 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม ปี 2021

อย่างไรก็ตาม ดัชนีสำคัญทั้ง 3 แห่งยังคงให้ผลตอบแทนเป็นลบนับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านไป โดยลดลง -4.81%, -14.39% และ -26.70% ตามลำดับ ซึ่งยังคงทำให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ในภาวะปรับฐาน หรือ Correction และดัชนีหุ้นนาสแดคอยู่ในภาวะหมี หรือ Bear Market

สาเหตุจากตัวเลขค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้บริโภคชาวอเมริกันขั้นพื้นฐานเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาด สะท้อนแนวโน้มภาวะเงินเฟ้ออยูาในช่วงผ่อนคลายต่อเนื่อง แต่ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกาเดือนตุลาคมกลับเพิ่มสูงขึ้นเกินคาดหมาย ทำให้เกิดความไม่แน่ใจในภาพรวมเงินเฟ้อระยะยาว นอกจากนี้ นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตร ที่จะประกาศในคืนวันนี้ ก่อนหน้านี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นายเจอโรม พาวเวล กล่าวในเวทีสัมมนาเศรษฐกิจเมื่อคืนผ่านมาโดยส่งสัญญาณการชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น ส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลอย่างมาก

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 81.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.8% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 86.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.3% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคมนี้ มีการคาดการณ์ว่ายังคงยึดมติเดิมของกลุ่มโอเปกพลัส ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลงอย่างมากในรอบกว่า 4 เดือน และมุมมองในทางบวกว่าเศรษฐกิจจีนพอจะมีสัญญาณการฟื้นตัวอยู่บ้าง ขณะที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 เปิดเผยว่า กำลังมองหาช่วงราคาที่เหมาะสมในการประกาศใช้มาตรการเพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่าง 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกมากน้อยแค่ไหน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,816 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +56.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +3.2% ทำให้ราคาปิดขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน

ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักในรอบกว่า 4 เดือน สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณจากประธานเฟดที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ โดยตัวชี้วัดโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด หรือซีเอ็มอีวอทช์ ที่ 0.5% ขึ้นมาอยู่ที่ 91%