ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งกระฉูดกว่า 700 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 76 ดอลลาร์

295
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ พุ่งกระฉูดกว่า 700 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 76 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,762 จุด +701 จุด หรือ +2.12% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,282 จุด +61 จุด หรือ +1.45% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,240 จุด +139 จุด หรือ +1.07% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นปิดสูงสุดในรอบ 5 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่มกราคม 2023

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดพุ่งสูงถึง +2.0%, +1.8% และ 2.0% ตามลำดับ ด้านดัชนีหุ้นนาสแดคปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมามีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจจะเริ่มตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงมากถึง 339,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 190,000 คน และยังเป็นตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 29 ติดต่อกัน หรือ 3 ปีติดต่อกัน สิ่งสำคัญคือ อัตราเงินค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ทำให้ประเมินว่าอาจเป็นแรงลดความกดดันของเฟดในการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้น อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานเดือนดังกล่าวกลับเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 3.7% ทำสถิติว่างงานมากสุดในรอบ 7 เดือนผ่านมา จากที่ในเดือนเมษายน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่รระดับ 3.4% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 53 ปี

นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองในสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาไม่เป็นปัจจัยลบอีกต่อไป เนื่องจากวุฒิสมาชิกในสภาสูงของสหรัฐอเมริกาลงมติ 63 ต่อ 36 เสียง ผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานการกู้ยืมเงินของรัฐบาลไปอีก 2 ปี เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ลงนามและประกาศบังคับใช้ต่อไป

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.3% ส่งผลราคาปิดขึ้นสูงสุดในรอบ 7 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 76.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.5% ส่งผลราคาปิดขึ้นสูงสุดในรอบ 4 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคมผ่านมา

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลงกว่า 1% และนับเป็นสัปดาห์แรกที่ราคารายสัปดาห์ปิดลดลงใน 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมามีความมั่นใจมากขึ้นครั้งใหม่กับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกาที่จบสิ้นลงไป เป็นผลจากวุฒิสมาชิกลงมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และส่งต่อให้ประธานาธิบดีนายโจ ไบเดน ลงนามในวันเสาร์นี้

ขณะที่นักลงทุนยังประเมินประเมินว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกในการประชุมวันที่ 4 มิถุนายนนี้

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,948.11 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -1.5% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,947.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลง -1.55%

ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำตลาดโลกรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้น 1.3% และทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ดีที่สุดในรอบ 1 เดือน ส่งผลเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ปิดบวกสัปดาห์แรกใน 4 สัปดาห์ผ่านมา

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนเทขายทองคำทันที หลังจากปัจจัยเสี่ยงด้าานการเมืองในสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาจบสิ้นลง ในการผ่านร่างกฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,068 ล้านล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 5 มิถุนายนนี้

ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งทะยานสูงขึ้นรับตัวเลขการจ้างแรงงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรในเดือนพฤษภาคมที่สูงกว่าคาดหมายมาก สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นปรับเพิ่มขึ้นรวดเร็ว