ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งปิดเกือบ 100 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดขึ้นเหนือ 84 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดย้อนเหนือ 1,800 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,913 จุด +94 จุด หรือ +0.26% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,613 จุด +8 จุด หรือ +0.18% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,595 จุด +97 จุด หรือ +0.63% ทำให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประครั้งใหม่

สาเหตุจากนักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้นทุกกลุ่มที่มีผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นไปตามคาด และเหนือกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ปรากฎว่าขยายตัวเพียง 2% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 หรือในรอบเกือบ 2 ปีผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 84.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.57% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.2%

สาเหตุจากตลาดยังคงประเมินความต้องการใช้น้ำมันดิบเพิ่มต่อเนื่องจากการเปิดประเทศของสหรัฐอเมริกา และยุโรป ท่ามกลางรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เตรียมนำปริมาณสำรองน้ำมันในประเทศออกสู่ตลาดเพื่อลดภาวะราคาน้ำมันมีราคาสูงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ตลาดคาดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติของกลุ่มโอเปกพลัสในการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบรายเดือนต่อไป

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,795.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.7% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าครั้งใหม่ และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นกลับเหนือความคาดหมายเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลนักลงทุนโยกการลงทุนเข้าไปในตลาดหุ้นมากขึ้น