ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าก.ย.62ต่ำสุดรอบ 21 เดือน

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนกันยายน 2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯในเดือนกันยายนที่ผ่านมาลดลงมาอยู่ที่ 46.2 ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 46.5 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
.
ทั้งนี้ดัชนีที่ปรับลดลงนั้น เป็นผลจากการปรับลดลงของทุกกลุ่ม ทั้งด้านการลงทุนที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ 44.5 จาก 44.9 ในเดือนก่อนหน้า ด้านการท่องเที่ยวปรับลดลงมาอยู่ที่ 48.7 จาก 49.2 ด้านภาคเกษตรลดลงมาอยู่ที่ 40.6 จาก 40.8 ด้านภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ 47.3 จาก 47.7 เป็นต้น
.
โดยปัจจัยลบมาจาก การส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคมที่ลดลง 4% โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 21,914 ล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่การนำเข้าลดลง 14.6% มีมูลค่า 19,862 ล้านดอลลาร์ฯ ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 2,052 ล้านดอลลาร์ฯ
.
นอกจากนี้ผลจากปัญหาสงครามการค้าในระดับโลก โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และปัญหา Brexit ได้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทย รวมถึงปัญหาขัดแย้งของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกง ภัยธรรมชาติภายในประเทศ ทั้งน้ำท่วมหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในภาคใต้และกรุงเทพฯ
.
สำหรับปัจจัยบวกได้แก่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการชิม ช้อป ใช้ และคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.5% ต่อปี
.
ส่วนค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 30.76 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ 30.57 บาทต่อดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่ายังมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา สำหรับการค้าชายแดนและผ่านแดน 8 เดือน เพิ่มขึ้น 0.07% มีมูลค่าอยู่ที่ 915,517 ล้านบาท
.
โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 21 เดือน นับตั้งแต่มกราคม 2561 ซึ่งเป็นผลจากปัญหาสงครามการค้า ที่ทำให้เศรษฐกิจย่อตัวอย่างมีนัยสำคัญ และยังมีปัญหาราคาพืชผลในประเทศตกต่ำ และปัญหาน้ำท่วม แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเริ่มทำงาน แต่ยังไม่ช่วยดึงความเชื่อมั่นได้อย่างเต็มที่
.
ดังนั้นต้องดูแล ค่าเงินบาทหากสามารถพยุงให้ทรงตัวได้ จะช่วยประคองด้านการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ให้ฟื้นตัวได้ ส่วนกรณีที่ภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 มองว่าจะมีประโยชน์ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และจะช่วยทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีนี้ขยายตัวได้ 2.8-3%
.
สำหรับสิ่งที่ต้องจับตา คือ มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน Brexit งบประมาณไทยจะผ่านอย่างไร เนื่องจากจะมีผลต่อความเชื่อมั่นมั่นผู้บริโภคและผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจโดยรวม