ดาวโจนส์ถูกเทกว่า 60 จุด

รอนานเข้าวันที่ 3 ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ถูกเทกว่า 60 จุด ตลาดน้ำมันพลิกร่วงกว่า 4% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดหลุด 38 ดอลลาร์ ราคาทองคำขยับต่อเล็กน้อย
.
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 28,323 จุด -66 จุด หรือ -0.24% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,509 จุด -1 จุด หรือ -0.03% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,895 จุด +4 จุด หรือ +0.04% ส่งผลให้ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์เลือกตั้งนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งทะยานสดใส +6.9%, +7.3% และ 9% ตามลำดับ ทำสถิติรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา
.
สาเหตุจากเข้าสู่วันที่ 3 หลังสิ้นสุดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะออกมาชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้คะแนนครบ 270 เสียง ท่ามกลางคะแนนของนายโจ ไบเดน ขยับเข้าใกล้ 270 คะแนน ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพียง 214 คะแนน นอกจากนี้เกิดความไม่ชัดเจนของพรรครีพับลิกันที่จะครองเสียงข้างมากในสภาสูงสหรัฐ
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 37.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.3% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 39.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.7% ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง เพิ่มขึ้น +4.5% และ +6% ตามลำดับ สาเหตุจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 ในยุโรปพุ่งสูงอย่างรุนแรง ทำให้กลุ่มอียูปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ และมองว่าจะฟื้นตัวได้ต้องล่าช้าออกไปเป็นปี 2023 นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรปทยอยปิดล็อคประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ยังไม่มีความคืบหน้าในการรู้ผู้ชนะเลือกตั้งอย่างชัดเจน แม้จะเข้าสู่วันที่ 3 ในการนับคะแนนก็ตาม
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,955.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +3.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.5% ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำโลกเพิ่มขึ้น 3.6% มากที่สุดในรอบ 3 เดือน หรือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่อง และผลการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังไม่เสร็จสิ้น แต่นายโจ ไบเดน พรรคเดโมแครตมีแนวโน้มชนะเลือกตั้งสูง ส่งผลดีต่อการกลับมาผลักดันแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ