ดาวโจนส์ปิดดำดิ่งเหวลึกกว่า 1,000 จุด น้ำมันดิบปิดเฉียด 111 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,997 จุด -1,063 จุด หรือ -3.12% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,146 จุด -153 จุด หรือ -3.56% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 12,317 จุด -647 จุด หรือ -4.99% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดคทำสถิติตกค่ำเลวร้ายมากที่สุดใน 1 วันในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติตกต่ำเลวร้ายใน 1 วัน เป็นอันดับที่ 2 ในรอบปีนี้ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่งยังลบสถิติดัชนีหุ้นที่พุ่งสูงเมื่อวานก่อนหน้านี้(พุธที่ 4 พ.ค.)อย่างสิ้นเชิงอีกด้วย
สาเหตุจากนักลงทุนกลับสูญเสียความมั่นใจครั้งใหม่มากขึ้นหลังจากประเมินข้อมูลแนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา และรายละเอียดการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอโรม พาวเวลล์ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ถึงแม้จะส่งสัญญาณว่าไม่ได้มองถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 0.75% โดยการแถลงข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังการประกาศผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% และเริ่มลดมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในรับการเงินสหรัฐอเมริกามูลค่า 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 315 ล้านล้านบาท โดยจะเริ่มลดมาตรการดังกล่าวเดือนละ 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.33 ล้านล้านบาท ในเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 108.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 110.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
สาเหตุจากประธานกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 6 ด้านน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปกับประเทศรัสเซีย ทำให้กลุ่มอียูจะลดการนำเข้าน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียภายใน 6 เดือน และสิ้นปีนี้ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ประเทศฮังการี และสโลวัก จะยังคงนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียได้ถึงสิ้นปีปี 2023 จากนั้นจะยกเลิกการนำเข้าจากรัสเซียทั้งหมด นอกจากนี้ ยังประกาศมาตรการคว่ำบาตรสถาบันการเงินรัสเซียขนาดใหญ่อีกด้วย
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,878.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.5% โดยยังคงมีราคาปิดใกล้เคียสถิติราคาทองคำโลกต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นลดลงทันที หลังธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีมติขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ตามคาดหมาย
