ดาวโจนส์ปิดดิ่งหนักอีกกว่า 460 จุด น้ำมันดิบปิดขึ้นเหนือกว่า 98 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 33,131 จุด -464 จุด หรือ -1.38% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,225 จุด -79 จุด หรือ -1.84% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,037 จุด -344 จุด หรือ -2.57% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เข้าสู่ภาวะดัชนีปรับฐานเป็นทางการ หรือ Correction ต่อเนื่องเนื่องจากดัชนีดังกล่าวร่วงรุนแรงถึง 12% เทียบจากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบปีนี้ และดัชนีหุ้นนาสแดคทรุดหนักเป็นวันที่ 4 ติดกัน และเข้าใกล้ภาวะหมี หรือ Bear Market เนื่องจากดัชนีดังกล่าวทรุดหนักกว่า -18% เทียบจากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
สาเหตุจากเมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลยูเครนเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศภายใน 48 ชั่วโมง และให้ชาวยูเครนกว่าหลายล้านคนในรัสเซียรีบอพยพออกจากรัสเซียด่วนที่สุดจากแนวโน้มการเกิดสงครามที่ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า เกิดการโจมตีทางระบบไซเบอร์เป็นวงกว้างในยูเครน ทำให้ไม่สามารถใช้งานระบบออนไลน์ของรัฐบาลได้ ด้านนานาชาติเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย สหรัฐอเมริกาเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 2 กับโครงการท่อส่งพลังงานก๊าซธรรมชาตินอร์ด สตอร์ม 2 ในรัสเซีย และภาคธุรกิจเอกชนในรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 92.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.19ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 98.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ในช่วงระหว่างการซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ และเบร็นท์ อังกฤษ พุ่งสูงถึงระดับ 96.00 และ 99.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ
สาเหตุจากสถานการณ์ตึงเครียดสูงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานภาวะน้ำมันดิบโลก พบว่าตลาดน้ำมันดิบยังคงตึงตัวต่อเนื่องหลังจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีก 400,000 บาร์เรลในเดือนมีนาคม โดยทั่วโลกต้องการใช้น้ำมันดิบปี 2565 สูงถึง 100.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,910.4 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +3.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% ยังคงมีสถิติใกล้เคียงปิดสูงสุดในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2564
สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนอีกครั้ง หลังจากมีรายงานการใช้อาวุธหนักยิงใส่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพรมแดนยูเครน ซึ่งเป็นกลุ่มแบกแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ยังคงอยู่สูงถึงระดับ 2% ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
