ตลท. เผยเดือน พ.ค. 66 ต่างชาติเทขายหุ้นไทย 4 เดือนติด คาด มิ.ย. 66 ฟันโฟลว์ไหลออก

237
0
Share:
ตลท. เผยเดือน พ.ค. 66 ต่างชาติ เทขาย หุ้นไทย 4 เดือนติด คาด มิ.ย. 66 ฟันโฟลว์ไหลออก

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าเดือน พ.ค. 66 ผู้ลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของพันธบัตรรัฐบาล หลังมีความคืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ประกอบกับผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) สะท้อนมุมมองว่า FED น่าจะอยู่ใกล้จุดที่จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโลก เนื่องจากผู้ลงทุนคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะไม่เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันมากนักขณะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว และความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงมีอยู่จำกัดทำให้ ธปท. ยังคงขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

โดยในเดือน พ.ค. 66 เริ่มเห็นเงินทุนต่างชาติไหลออกจากพันธบัตรและหุ้นไทยในระยะสั้น หลังทราบผลการเลือกตั้งเนื่องจากผู้ลงทุนกังวลเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังคงติดตามความชัดเจนอย่างใกล้ชิด และหากนโยบายต่างๆ ไม่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการเพิ่มต้นทุนในการทำธุรกิจที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามา และหากพิจารณาจากอัตราส่วน Forward P/E ของ SET ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิใน 5 เดือนแรก ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค. 66 ที่กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า เพิ่มขึ้น 0.53% แต่เป็นอัตราชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน นั้น มองว่าเป็นข่าวดี จะช่วยให้คลายกังวล สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยพื้นฐานยังเข้มแข็ง และส่งผลถึงตลาดทุนไทย

อย่างไรก็ตามมองว่าในเดือน มิ.ย. 66 แม้ประเด็นเพดานหนี้สหรัฐเริ่มคลี่คลาย แต่ยังต้องติดตามเฟด ที่ยังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง สวนทางกับนักลงทุนต่างประเทศที่ประเมินว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงในช่วงปลายปีเพราะฉะนั้น จึงต้องจับตาช่องว่างที่เกิดขึ้นในระยะต่อไป ขณะที่มองว่าฟันโฟล์วจะเริ่มกลับมาบ้าง แต่จะยังไม่มาก หลังนักลงทุนคลายกังวลเรื่องเพดานหนี้สหรัฐ แต่ยังมีปัจจัยเรื่องโอเปกพลัส ที่ลดกำลังการผลิตน้ำมัน นำร่องโดยซาอุดิอารเบียว่าจะส่งผลกระทบอย่างไร ส่วนในประเทศยังมีปัจจัยเรื่องการเมือในการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังต้องติดตาม

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปี 2566 ฟันโฟล์ว มีทั้งเข้าและออก ต้องดูเป็นส่วนๆ ทั้งนี้ หากมองย้อนกลับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เคยเกิดกรณีฟันโฟล์วไหลออกรุนแรงและรวดเร็ว เมื่อเทียบกับปัจจุบัน ถือว่ายังไม่รุนแรง มองว่าขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยหลายๆ กลุ่ม ปรับตัวในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นมาก ประเมินว่าฟันโฟลว์จะหลับมาซื้อสุทธิได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

ขณะที่ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยสิ้นเดือน พ.ค. 66 SET Index ปิดที่ 1,533.54 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยปรับไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในASEAN โดยกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มการเงิน กลุ่มบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565

ส่วนมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 54,189 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 31.6% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในห้าเดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 60,933 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 33,407 ล้านบาท ขายสุทธิเป็นเดือนที่สี่ อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยในเดือน พ.ค.2566 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. จีเอเบิล (GABLE)

ด้าน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน พ.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 20.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.1 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน พ.ค.2566 อยู่ที่ระดับ3.17% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.46%

สำหรับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 501,638 สัญญา เพิ่มขึ้น 19.3% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 548,016 สัญญา ลดลง 3.1% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของSingle Stock Futures