ตลาดหุ้นฟื้นทั่วโลกหลังแบงก์ใหญ่ในสหรัฐอัดฉีดกว่า 1 ล้านล้านพยุงธนาคารเฟิร์สรีพับบลิก

235
0
Share:
ตลาดหุ้น ฟื้นทั่วโลกหลังแบงก์ใหญ่ในสหรัฐอัดฉีดกว่า 1 ล้านล้านพยุงธนาคารเฟิร์สรีพับบลิก

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นหลังมีข่าวว่าธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐได้ร่วมกันอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ธนาคารเฟิร์สรีพับบลิกของสหรัฐ เช่นเดียวกับธนาคารเครติดสวิส ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากธนาคารชาติสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลว่าจะเกิดวิกฤตการธนาคารทั้งในยุโรปและสหรัฐลงไปได้ในขณะนี้

โดยหุ้น FRC.N ของธนาคารเฟิร์สรีพับบลิกพุ่งขึ้นเกือบ 22% ก่อนที่การซื้อขายจะหยุดลงในวันที่ 16 มีนาคม หลังจากมีรายงานว่าธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งกำลังเจรจาเพื่ออัดฉีดเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.035 ล้านล้านบาท เพื่อพยุงสถานะของธนาคารที่หลายฝ่ายกำลังจับตามองด้วยความหวั่นวิตกว่าเสี่ยงที่จะล่มสลาย

ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐออกมาแสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว และว่าการกระทำนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของพวกเขา ระบบธนาคารมีเงินสดมากมายและสามารถทำกำไรได้มาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ การกระทำของธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารของประเทศ

ส่วนหุ้นของเครติดสวิสปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% หลังมีการยืนยันการให้การสนับสนุนโดยธนาคารชาติสวิตเซอร์แลนด์

ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นในตลาดโลกพากันปรับตัวขึ้นตามมา โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 371.98 จุด หรือ 1.17% ปิอที่ 32,246.55 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 68.35 จุด หรือ 1.76% ปิดที่ 3,960.28 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 283.23 จุด หรือ 2.48% ปิดที่ 11,717.28 จุด

ด้านดัชนี DAX ของเยอรมนี ปรับเพิ่มขึ้น 231.84 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.57% ปิดที่ 14,967.10 จุด ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ ปรับขึ้น 65.58 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.89% มาปิดที่ 7,410.03 จุด ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ปรับเพิ่มขึ้น 140.01 จุด หรือ 20.3% มาปิดที่ 7,025.72 จุด

ดัชนีหุ้นโลก MSCI .MIWD00000PUS ซึ่งติดตามหุ้นใน 49 ประเทศ ปรับเพิ่มขึ้น 1.27% ส่วน STOXX 600 .STOXX ของยุโรปปิดวันสูงขึ้น 1.3% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับลดลง 0.6% ทันทีหลังจากข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เช่นเดียวกับดัชนีภาคการธนาคาร .SX7P ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ดีดกลับจากที่ลดลงระหว่างวันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม อีซีบีได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นเป็น 3% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2551 โดยให้เหตุผลสำคัญว่ายังจำเป็นต้องต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากนักลงทุนบางส่วนให้ชะลอการบังคับใช้นโยบายเข้มงวด จนกว่าความวุ่นวายในภาคการธนาคารจะผ่อนคลายลงก็ตามที

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของยุโรปและสหรัฐก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน อย่างไรก็ดี ล่าสุดราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือปรับเพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1% มาอยู่ที่ 74.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.1% มาปิดที่ 68.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนราคาทองคำสปอต XAU= เพิ่มขึ้น 0.03% เป็น 1,918.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสหรัฐ GCv1 ลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์