ตั้งใจเรียนลูก! ตะลึงพ่อแม่กว่า 70% ขุดเงินออม-กู้หนี้ส่งลูกเปิดเทอมใหม่

464
0
Share:
ตั้งใจเรียนลูก! ตะลึง ผู้ปกครอง พ่อแม่กว่า 70% ขุดเงินออม-กู้หนี้ส่งลูก เปิดเทอม ใหม่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้จัดทำการสำรวจมุมมองผลกระทบและการปรับตัวในการใช้จ่าย เพื่อการศึกษาเปิดเทอมใหญ่ปี 2565 ของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียน (ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ท่ามกลางภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น พบว่า

สิ่งที่ผู้ปกครองกังวลมากที่สุด ณ ขณะนี้ คือปัญหาเรื่องของราคาสินค้าและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ปกครองกว่า 70.8% แสดงความกังวล/มีปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงินในการใช้จ่าย เพื่อการศึกษาของบุตรหลานในการเปิดเทอมปี 2565 เนื่องจากในภาวะปัจจุบัน ผู้ปกครองบางกลุ่มยังคงเผชิญกับปัญหาหลายๆ ด้าน

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวยังหางานไม่ได้ ชั่วโมงการทำงานยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ ยอดขายของธุรกิจที่ลดลง มีภาระที่ต้องผ่อนชำระเงินกู้ อีกทั้งยังต้องพบเจอกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยกลุ่มผู้ปกครองที่มีความกังวลหรือมีปัญหาด้านสภาพคล่อง ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง และเป็นกลุ่มที่มีภาระการผ่อนชำระสินเชื่อมากกว่า 1 บัญชี หรือเงินกู้ยืมจากแหล่งอื่น

ความกังวลรองลงมา คือเรื่องของโรคโควิด แม้ ณ ขณะนี้ นักเรียนบางส่วนจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ผู้ปกครองยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโรคเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังสูง และจากผลสำรวจสะท้อนว่า ผู้ปกครองกว่า 56.8% ยังไม่มีความมั่นใจเมื่อบุตรหลานต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนเต็มรูปแบบ เนื่องจากมองว่าโควิดนั้นติดต่อง่าย และอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของบุตรหลาน

สำหรับแหล่งเงินที่ผู้ปกครองนำมาใช้จ่าย เพื่อการศึกษาของบุตรหลาน โดยส่วนใหญ่จะมาจากเงินออม และมาจากแหล่งเงินอื่นๆ เช่น บัตรเครดิต ยืมญาติ/เพื่อน เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วน 41.8% รองลงมา คือ ผู้ปกครองใช้เงินออมของตนทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 30.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด

แต่ก็มีผู้ปกครองส่วนหนึ่งที่มีเงินออมไม่เพียงพอ เพื่อนำมาใช้จ่ายในการชำระค่าเทอมและซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน และอื่นๆ จำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งเงินจากที่อื่น 27.8% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด เช่น ยืมญาติ / เพื่อน ใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ผู้ปกครองบางรายพึ่งโรงรับจำนำ กู้นอกระบบ และผู้ปกครองบางรายเลือกที่จะขอผ่อนชำระหรือผ่อนผันกับทางโรงเรียน

ในภาวะดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างกว่า 82.6% มองว่า ในช่วงเวลานี้ ทางการควรมีมาตรการเพื่อมาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา หรือด้านอื่นๆ อาทิ มาตรการเงินช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายและค่าเทอม มาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้าเพื่อการศึกษา หรือมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อ ATK ตรวจโควิด เป็นต้น