ททท.ดันคนไทยเที่ยวให้สุด หวังดันรายได้แตะ 650,000 ล้านบาท ช่วยฟื้นท่องเที่ยวไทย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า หากประเมินช่วงต้นปีตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2565 การท่องเที่ยวไทยยังเผชิญสถานการณ์การระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันสถานการณ์โควิดเริ่มชะลอตัวลง ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มดีขึ้น สะท้อนได้จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น จึงมองว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป สถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้นและกลับมาฟื้นตัว
.
ททท.คาดหวังว่า แคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะ “Thailand Golf & Dive Expo plus Traveler & Outdoor Expo 2022” ภายใต้แนวคิด “THAILAND PREMIUM TRAVEL FAIR” จัดระหว่างวันที่ 5-8 พฤษภาคมนี้ที่ไบเทค บางนา ทั้งสินค้าและบริการสำหรับการดำน้ำ กีฬากอล์ฟ แพคเกจท่องเที่ยวและกิจกรรมกลางแจ้ง จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวช่วงไตรมาส 3-4/2565 ตอบโจทย์ทำให้เป็นไปตามเป้าหมายท่องเที่ยวตลาดในประเทศ เกิดการเดินทางอยู่ที่ 165 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 6.5 แสนล้านบาท
.
โดยปกตินักท่องเที่ยวชาวไทยใช้เงินท่องเที่ยวประมาณ 2,800 บาทต่อทริป ส่วนเป้าหมายใหม่ในปี 2565 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายรายได้ในภาพรวมที่ 6.5 แสนล้านบาท เราต้องการเห็นนักท่องเที่ยวใช้เงิน 4,100 บาทต่อทริป ซึ่งจะต้องมีการเสริมประสบการณ์ เสริมกิจกรรม และการบริการการท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งในส่วนกิจกรรมทั้ง 3 ประเภท จะทำให้ค่าใช้จ่ายต่อทริปเพิ่มขึ้นได้
.
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การท่องเที่ยวในระยะต่อไป จะส่งเสริมการเดินทางเชิงประสบการณ์ ผ่าน 3 กิจกรรรม ได้แก่ กีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมการแจ้ง ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ ไม่ได้เป็นเทรนด์ที่เติบโตเพียงในไทยเท่านั้น แต่เติบโตสูงมากในต่างประเทศ เฉลี่ยกว่า 20% ทั้งเรือยอร์ช ด้ำน้ำ การแคมป์ปิ้ง และกีฬากอล์ฟ ที่เตรียมให้บริการไว้ทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟด้วย โดยหากสถานการณ์โควิด-19 คงที่ ทำให้เราสามารถเปิดประเทศอย่างสมบูรณ์แบบ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาสูงขึ้นอย่างแน่นอน
.
ด้านอัตราการเข้าพักในโรงแรม หรือ อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร หรือ Load Factor ของธุรกิจสายการบินน่าจะไปได้ดี โดยททท.ตั้งเป้าไว้ว่าอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารในปี 2565 ของเส้นทางการบินจะไม่ต่ำกว่า 75% รวมถึงททท. ได้ตั้งเป้าหมายให้ปี 2565 ภาคการท่องเที่ยวไทยกลับมามีรายได้อย่างน้อย 50% ของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
