ทรัมป์สั่งปล่อยน้ำมันในคลังสำรอง

767
0
Share:

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯเปิดเผยว่า เมื่อได้พิจารณาถึงเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน จึงได้สั่งการให้ปล่อยน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ โดยให้ปล่อยในปริมาณที่มีการกำหนด และพอเพียงต่อการรักษาอุปทานน้ำมันในตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
.
ด้านเจ้าชายอับดุลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า เหตุโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซ 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ตัวเลขล่าสุดที่โอเปกเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ผลผลิตทั้งหมดของซาอุฯ อยู่ที่ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน เท่ากับว่าผลผลิตจะหายไปถึงราวครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
.
ขณะที่นายอับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐกล่าวหาว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่สำคัญสองแห่งของซาอุดีอาระเบียว่า การกล่าวหาที่ไร้ประโยชน์ดังกล่าว ไม่สามารถเข้าใจได้ และไร้ความหมาย โดยสหรัฐใช้นโยบายกดดันสูงสุดต่ออิหร่าน แต่กลับล้มเหลว จึงหันมาใช้วิธีการโกหกในเรื่องดังกล่าว
.
ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าจากการสอบถามไปยังบริษัทอารามโคของทางการซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับผลกระทบ เบื้องต้นทราบว่า ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมได้ และกำลังอยู่ระหว่างสำรวจ เพื่อประเมินความเสียหาย โดยยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออก เพราะโรงกลั่นที่ถูกไฟไหม้อยู่ในบริเวณทะเลทราย ไม่มีผลกระทบต่อคลังน้ำมันที่ป้อนให้กับทางกลุ่ม ปตท. จึงยังไม่กระทบต่อการนำเข้าน้ำมันของไทย
.
แต่กระทรวงพลังงานมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอ ทั้งน้ำมันดิบสำรอง น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างการขนส่ง และน้ำมันสำเร็จรูป โดยจะไม่เกิดการขาดแคลนในระยะสั้น และจะมีการเรียกประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อีกด้วย
.
โดยในช่วงเวลา 6.21 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 6.12 ดอลลาร์ หรือ 11.16% แตะที่ระดับ 60.97 ดอลลาร์/บาร์เรล