ทีมวิจัยออสเตรเลียพบฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 โดส มีแอนติบอดีต้านโควิด-19 ในน้ำตาระดับสูง

396
0
Share:
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นและมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยมีการค้นพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำตาผู้ป่วย และพบแอนติบอดีต้านโควิด-19 ในน้ำตาของผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 แล้วได้เกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ด้าน สตีเฟน เคนต์ นักวิจัยในทีมศึกษา ได้กล่าวว่า แต่ยังไม่มีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับการพบแอนติบอดีในน้ำตาหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครทราบว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้เกิดแอนติบอดี ในน้ำตาหรือไม่
.
โดยได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 42 คน ทำการรวบรวมพลาสมา // น้ำลาย และน้ำตา จากผู้เคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อ 7 เดือนที่แล้วจำนวน 16 คน // ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ครบโดสจำนวน 15 คน ซึ่งจะมีการเก็บตัวอย่างก่อนการฉีดวัคซีนและ 13 วันหลังฉีดวัคซีนเข็มที่สอง และกลุ่มควบคุมเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีอีก 11 คน จากนั้นทำการทดสอบตัวอย่างเพื่อดูการตอบสนองของแอนติบอดีชนิด IgG กับแอนติเจนของโควิด-19
.
พบว่าจากการติดเชื้อโควิด-19 และหายเองตามธรรมชาติและการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันชนิด IgG ที่จำเพาะต่อการต้านโปรตีนหนามของโควิด-19 ในน้ำตาได้
.
โดยจากตรวจพบแอนติบอดีต้านโควิด-19 ชนิด IgG ในน้ำตา น้ำลาย และในพลาสมาของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน แต่ในน้ำตาและน้ำลาย ได้พบแอนติบอดีจำเพาะต่อโปรตีนหนามอยู่ในระดับต่ำหรือตรวจไม่พบเลย แต่ในพลาสมา น้ำตา และน้ำลายของผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบโดสพบแอนติบอดีชนิด IgG แบบจำเพาะต่อโปรตีนหนามในระดับสูง
.
ทั้งนี้ทำให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้ร่างกายเกิดแอนติบอดี IgG ที่จำเพาะต่อโปรตีนหนามในระดับสูงในน้ำตาและน้ำลาย ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ดวงตานี้ อาจเป็นแนวทางการป่องกันการโควิด-19 เนื่องจากไวรัสสามารถเเพร่กระจายในอากาศได้ และดวงตาก็เป็นอวัยวะที่เสี่ยงติดเชื้อเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการศึกษาพบว่า การสวมแว่นตามีผลกับอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลง และสามารถป้องกันยังลดการระบาดในสถานพยาบาลได้