ท่อส่งน้ำมันดิบใต้ทะเลมาบตาพุดรั่วกว่า 4 แสนลิตร จะกระทบราคาน้ำมันขายปลีกหรือไม่

530
0
Share:

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า กำลังเร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุน้ำมันดิบ 400,000 ลิตร รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยเป็นท่อของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้รับการประสานจากทางบริษัทเมื่อคืนที่ผ่านมา จึงจำเป็นจะต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่งเนื่องจากทิศทางลมพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อชายหาดหลายแห่งในจังหวัดระยอง

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ว่ากลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึง จนถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม ระหว่างเวลาประมาณ 15.00-17.00 น. ในปริมาณประมาณ 180,000-200,000 ลิตร จึงส่งให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่องและหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 04.02 น. วันนี้ 26 มกราคม 2565 บริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือแถลงการณ์  โดยมีข้อความระบุว่า พบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)

ตามที่บริษัทฯ แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) นั้น

บริษัท ฯ ขอแจ้งเพิ่มเติมว่า  หลังจากที่เกิดเหตุ ทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินได้ทำการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และได้ทำการหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตาม  ขั้นตอนความปลอดภัย ในขณะนี้สถานการณ์สามารถควบคุมได้และหยุดการรั่วไหลตั้งแต่เวลา  00:18 น. ของวันนี้ และได้ดำเนินการใช้เรือฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน บริษัทฯ จะทำการสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุในเช้าวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป

บริษัทฯ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว (EIC), ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ศร ชล ภาค 1 และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ซึ่งประกอบด้วยกำลังพล เรือ และน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน เพื่อใช้ในการขจัดคราบน้ำมัน

สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติโดยไม่มีผล กระทบจากอุบัติการณ์ดังกล่าว หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ