ธนาคารต่างชาติจัดเงินบาทไทยให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในเอเชีย

422
0
Share:

ธนาคารมิซูโฮ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทกลายเป็นสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในทวีปเอเชียนับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน ซึ่งตรงกันข้ามกับค่าเงินบาทในช่วงก่อนที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19 กับประเทศไทย ซึ่งในครั้งนั้นเงินบาทให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในเอเชีย

สำหรับอัตราผลตอบแทนค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบันร่วงอ่อนค่าไปมากกว่า 10% นอกจากนี้ เมื่อเทียบค่าเงินบาทกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆ พบว่าเงินบาทล้วนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เช่น อ่อนค่าเกือบ 7% เมื่อเทียบกับเงินเยน เมื่อเทียบกับเงินริงกิต บาทร่วงถึง 5% และอ่อนค่าลงถึง 4.43% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย

นายวิชนู วาราธาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และกลยุทธ์ ธนาคารมิซูโฮ กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่ร่วงตกต่ำอย่างหนักที่สุดในเอเชีย กลับไม่ได้สอดรับกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ 2 ตัวชี้วัด ซึ่งได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังคงอยู่ในระดับสูงถึงแม้ว่าจะลดลงมาบ้างเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ในไทย และ หรือภาวะเงินเฟ้อของไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินบาทร่วงตกต่ำอย่างมากในเอเชีย เป็นผลจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่ย่ำแย่เป็นประวัติการณ์ซึ่งเรื้อรังมากว่า 18 เดือน ถึงจะมีความพยายามเปิดประเทศไทยเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ก็ตาม ส่งผลให้กลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในไทยให้ย่ำแย่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ไทยเผชิญกับสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประวัติการณ์ในลักษณะวันต่อวันมาติดต่อกันทั้งๆที่ใช้มาตรการกึ่งปิดล็อกดาวน์ในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจไทยมาเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

ธนาคารมิซูโฮ เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไป ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 34,000 คน เปรียบเทียบกับจำนวนมากกว่า 39 ล้านคนในปี 2563 นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวไทยคิดเป็น 11% ของมูลค่าเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไทย หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาน้อย ย่อมสะท้อนถึงความต้องการเงินบาทลดน้อยลงไปด้วย ส่งผลให้ไม่เกิดภาวะเงินหมุนเป็นทวีคูณกับเศรษฐกิจในประเทศไทยเหมือนที่เคยพุ่งสูงเมื่อช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนหลายสิบล้านคน นอกจากนี้ โรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย ที่กลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศไทย กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสูง และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอ หรือยกเลิกการเดินทางมาไทย ล้วนเป็นอีก 2 ปัจจัยลบที่กระทบต่อความเชื่อมั่นค่าเงินบาท

นายยูเบ็น พาราซิวเลส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาคอาเซียน ธนาคารมิซูโฮ มองว่า การที่ประเทศไทยพึ่งพิงภาคการท่องเที่ยวมากจนเกินไป ได้กลายเป็นความท้าทายอย่างที่สุดในความพยายามที่จะเปิดประเทศอีกครั้งเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ท่ามกลางการเผชิญการแก้ไขวิกฤตโรคระบาดในประเทศไทยควบคู่กัน เป้าหมายที่จะเปิดประเทศไทยในเดือนตุลาคมเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานมาก โดยส่วนตัวแล้วมองว่า เป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานสูงเกินไป บางทีอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย