นักเศรษฐศาสตร์ของเฟดประเมินปี 66 เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสถดถอยถึง 50% จากการบริโภคชะลอตัว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางสหรัฐได้บรรยายสรุปให้กับผู้กำหนดนโยบายในเดือนพฤศจิกายนว่า โอกาสของภาวะถดถอยของสหรัฐในปี 2566 นั้นเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50% เนื่องจากความเสี่ยงของการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

โดยในรายงานการประชุม ระบุว่า การเติบโตที่ซบเซาของการใช้จ่ายภายในประเทศของภาคเอกชนที่แท้จริง แนวโน้มทั่วโลกที่แย่ลง และสภาวะทางการเงินที่ตึงตัว ล้วนถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงด้านลบที่สำคัญในการคาดการณ์เศรษฐกิจ นอกจากนี้ความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องอาจต้องใช้ปริมาณที่มากขึ้นกว่าที่คาดไว้ในสภาพการเงินที่ตึงตัว ถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงขาลงอีกประการหนึ่ง ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงยังคงตัดสินว่าความเสี่ยงในการประมาณการพื้นฐานสำหรับกิจกรรมจริงนั้นเบ้ไปทางด้านลบ และมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปีหน้า ซึ่งเกือบจะเป็นไปได้เท่ากับพื้นฐาน

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Bloomberg เห็นว่ามีโอกาส 65% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 โดยอิงจากค่ามัธยฐาน แบบจำลองเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ทำให้ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 100%

อย่างไรก็ตามที่ประชุม FOMC เลือกที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของธนาคารกลางขึ้น 0.75% นับเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 4 ติดต่อกันเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งปีนี้พุ่งสูงขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ