นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว “จะตรึงราคาน้ำมันจนกว่าจะตรึงไม่ได้”

318
0
Share:

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะตรึงราคาน้ำมันจนกว่าจะตรึงไม่ได้ โดยหากราคาน้ำมันดิบเกินกว่า 130 – 180 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะทำอย่างไร ซึ่งหากเปรียบเทียบในหลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีราคาสูงเช่นเดียวกัน แต่เป็นในระยะสั้น สถานการณ์ไม่ได้ยาวนานเช่นนี้ และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่จะปรับลดลง เพราะเป็นคนละสถานการณ์กัน การแก้ไขปัญหาวันนี้กับวันนั้นไม่เหมือนกัน จึงมีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน วันนี้ประเทศไทยมีความเจริญเติบโต มีประชากรจำนวนมากและจำเป็นต้องใช้พลังงานมาก ผลกระทบก็มากขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ปัญหาของเรา คือ งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เพราะมีการนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พอสมควร พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในทุกมิติ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวต่อไปว่า ถ้าราคาอยู่ในปัจจุบัน เราจะดูแลได้ถึงระยะเวลาเมื่อไหร่ ถ้าสูงกว่านี้จะทำอย่างไร ถ้าสูงกว่านั้นไปอีก จะทำอย่างไรอีก ถ้าท้ายที่สุด สูงขึ้นไปอีก ก็จะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะหลายประเทศก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ราคาน้ำมันของเราหรือราคาแก๊สของเรา อยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับในอาเซียนทั้งหมด แต่ไม่ได้ต่ำที่สุด เพราะมีประเทศที่มีแหล่งพลังงานอยู่ในประเทศ ตรงนี้ต้องเข้าใจกันด้วย นายกฯ ไม่อยากจะพูดอะไรมาก พูดไปก็ถูกเอาไปบิดเบือนหมด พูดไปบางทีก็ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ เพราะไปจับแต่ประเด็นที่จะเป็นปัญหาออกไป

นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามย้ำถึงการตรึงราคาน้ำมันเบนซิน โดยนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวด้วยเสียงเข้มว่า “จะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งเฉพาะดีเซลอาการหนักอยู่เลย ส่วนเบนซินก็จะต้องไปหาวิธีการเฉพาะกลุ่มว่าจะทำอย่างไร ขอให้เข้าใจด้วย”

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อไปว่า วันนี้มีหลายเรื่องที่เป็นปัญหาที่รัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการในการแก้ไขและลดความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งปัญหาคงไม่ใช่เรื่องพลังงาน และน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งน้ำมันมีทั้ง ดีเซล เบนซิน เอ็นจีวี แอลพีจี ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกันหมด ต้องหามาตรการในการบริหารว่าจะทำอย่างไรที่จะเกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด เท่าที่รัฐบาลจะสามารถทำได้ ทั้งมาตรการทางด้านภาษี ทั้งด้านเงิน ที่จัดหามาทดแทนกองทุนพลังงานที่มีจำกัด ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาท หากเกินกว่านั้นจะทำอย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันนี้คือจะทำอย่างไร ประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไปได้ในสถานการณ์ที่มีสงครามอยู่ในปัจจุบัน การจะบอกว่าอยู่ไกลกันก็คงไม่ใช่ เพราะห่วงโซ่การประกอบการธุรกิจต่างๆ การค้าการส่งออกเชื่อมโยงกันทั้งหมด ประเทศไทยก็เป็นสมาชิกอยู่ในหลายกลุ่มด้วยกัน มีทั้งการเจรจาทำข้อตกลง FTA RCEP และอินโดแปซิฟิก เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการกับทุกประเทศ ให้เกิดความสมดุลที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยโดยตรง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า จะเรียกคณะกรรมการเกี่ยวกับแร่ต่างๆ มาหารือ ว่าประเทศไทยมีแหล่งแร่ที่ใดบ้างที่จะนำมาทำปุ๋ย เพื่อหาวัตถุลดต้นทุน แต่ต้องไม่เกิดความขัดแย้ง ซึ่งถ้ามี ก็ไม่จำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตปุ๋ยในราคาแพงจากต่างประเทศ แล้วมาโวยวายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ขอให้ช่วยตัวเองบ้าง รวมถึงการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งก็ยึดโยงกับภาคพลังงาน