นายกฯ นิวซีแลนด์ ประกาศพร้อมยุติล็อกดาวน์หากมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงถึง 90% ตามเป้าหมายของประเทศ

นางจาร์ซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์ควรยกระดับเป้าหมายให้มีการฉีดวัคซีนให้ถึง 90% ขึ้นไป และรัฐบาลอาจยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์หากประชาชนได้รับวัคซีนในระดับที่สูงมากพอ ซึ่งในปีที่ผ่านมานิวซีแลนด์สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างดีจนทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศที่น้อยมากๆ ก่อนจะเผชิญกับการระบาดของสายพันุธุ์เดลต้าจนทำให้รัฐต้องประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

ซึ่งในขณะนี้เมืองโอ๊คแลนด์ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ และได้มีรายงานพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้การฉีดวัคซีนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 แทนที่มาตรการล็อกดาวน์ และทางการจะแยกกักตัวเฉพาะผู้ติดเชื้อเท่านั้น ซึ่งหากอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ ก็จะสามารถเลิกใช้มาตรการล็อกดาวน์ได้ และให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ซึ่งนิวซีแลนด์ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 90% ขึ้นไป

ทั้งนี้ปัจจุบันนิวซีแลนด์มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสในกลุ่มประชากรผู้ใหญ่ที่ 40% และ 75% สำหรับประชากรที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส จากข้อมูล ณ วันพุธ (22 ก.ย.) ระบุว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 15 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศรวมอยู่ที่ 1,123 ราย