นายกเตรียมเปิดให้ประชาชนประเมินผลงานของรัฐบาล

741
0
Share:

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานสัมมนา Global Compact Network Thailand และกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “วิถีคิดผู้นำในสถานการณ์วิกฤต ประสบการณ์จากสถานการณ์โควิด – 19” โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า ทุกคนคงเห็นเหมือนกันว่า วิกฤติโควิด 19 ครั้งนี้เป็นวิกฤตระดับโลก ที่ไม่เคยประสบวิกฤตการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง เราต้องปรับตัวทั้งในการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในรูปแบบ New Normal หรือ วิถีปกติใหม่
.
ดังนั้น ผู้นำในทุกองค์กร รวมทั้งภาครัฐบาลจึงต้องพร้อมปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่โลกใหม่ด้วย และไม่อาจทำงานในรูปแบบเดิมอีกต่อไป สำหรับรัฐบาลก็เร่งปรับปรุงวิธีการทำงานให้เป็นแบบ New Normal ตามแนวทางสำคัญ 3 ประการ ประกอบด้วย
.
การผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนเพื่อร่วมวางอนาคตของประเทศไทย ทุกภาคส่วนสามารถนำเสนอวิสัยทัศน์ และความคิดในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้รัฐบาลฟังได้ รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เพื่อทำหน้าที่ ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยา และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของประชาชนในระดับพื้นที่
.
นอกจากนี้รัฐบาลจะเปิดให้มีการประเมินผลงานภาครัฐ โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง ให้ทุกคนสามารถประเมินผลการทำงานของรัฐว่า ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามที่เขาคาดหวังหรือไม่ เพื่อกำจัดสิ่งที่ทำแล้วไม่มีประโยชน์ออกไปให้ได้มากที่สุด
.
ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นเป็นอันดับต่อไปคือ สนับสนุนให้ประชาชนมีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลรับทราบโดยตรงได้ด้วย
.
ที่สำคัญไทยและโลกมีเป้าหมายที่ชัดเจนรออยู่ข้างหน้า นั่นก็คือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ SDGs ซึ่งเราจะต้องบรรลุให้ได้ภายในปี 2573 เรามีเวลาเหลืออีกไม่มาก แต่ตนเชื่อมั่นในประเทศไทยและคนไทย หากเราร่วมมือร่วมใจกัน ความก้าวหน้าและความสำเร็จอยู่ไม่ไกล
.
โดย 3 ประเด็นหลัก ที่มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้ คือการมองไปข้างหน้า จัดสรรงบประมาณด้านสาธารณสุขอย่างเหมาะสม มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมทั่วถึง ไม่มีช่องว่างระหว่างคนในสังคม เตรียมรับมือกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัส
.
นอกจากนี้ไทยมีการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่ไทยยังขาด คือ ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น ยา วัสดุ และเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศ จึงควรสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ และการแพทย์ ต้องทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เพื่อรับมือกับโอกาสและความท้าทาย เช่นการผลิตวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19
.
และเมื่อเราเริ่มทำงานในแบบใหม่ก็อาจมีเสียงคัดค้าน หรือการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น ตนพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกคน โดยเฉพาะเยาวชน เพราะผมเชื่อมั่นว่า เราต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้น ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมภารกิจรวมไทยสร้างชาติไปพร้อม ๆ กันมั่นใจว่า วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยของเรายิ่งแข็งแกร่งมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นกว่าเดิม