บราซิลติดโควิด-19 รวมทะลุ 20 ล้านคนเป็นครั้งแรกเตรียมยกเลิก-ผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดที่ใช้มานานกว่า 1 ปี
กระทรวงสาธารณสุข บราซิล เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 40,460 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดในรอบ 8 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลต่อยอดติดเชื้อสะสมเป็น 20,026,533 ราย ไม่เพียงทำสถิติเป็นวันแรกของประเทศบราซิลที่มีผู้ติดเชื้อสะสมแตะ 20 ล้านราย แต่ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้อมากที่สุดในละตินอเมริกาอีกด้วย ในสัปดาห์นี้ ปรากฎว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมามีเพียง 15,143 ราย ซึ่งทำสถิติยอดติดเชื้อรายใหม่ต่ำสุดในรอบ 7 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2563
ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,118 ราย ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 559,715 ราย ทำสถิติยอดเสียชีวิตสะสมมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในอเมริกาใต้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประเทศบราซิลกลับเตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่าง และข้อจำกัดอื่นๆที่ได้บังคับใช้มาเป็นเวลานานถึง 15 เดือน ในสัปดาห์นี้ โรงเรียนจำนวนมากในบราซิลได้กลับไปเปิดรับนักเรียนให้กลับเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเต็มรูปแบบ รัฐบาลบราซิลประกาศยกเลิกข้อจำกัดเปิดบริการของภาคธุรกิจเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนึ้เป็นต้นไป ริโอ เดอ จาเนโร ประกาศผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดต่างๆโดยมีผลในวันที่ 2 กันยายนนี้ โดยเฉพาะการผ่อนคลายการสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย ที่สำคัญ นายกเทศมนตรีเมืองริโอ เดอ จาเนโร กล่าวว่า จะมีการฉลองการเปิดเมืองครั้งใหญ่เป็นเวลา 4 วันติดต่อกันด้วย
เนื่องจากรัฐบาลบราซิลประเมินว่า ถึงแม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันในปัจจุบันจะยังคงมีมากกว่าวันละ 1,000 รายก็ตาม โดยลดต่ำลงกว่าวันละ 1,000 ราย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่จำนวนดังกล่าวได้ลดต่ำลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่มากกว่า 4,200 ราย ในช่วงที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการุนแรงไอซียูในโรงพยาบาลมีจำนวนลดลงเช่นกัน โดยมีสัดส่วนลดลงมาอยู่ที่ 60% ถึง 65% จากเดิมที่เคยพุ่งสูงถึง 95% ในช่วงต้นปีนี้
สำหรับสาเหตุการระบาดในประเทศบราซิล พบว่ามีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์แกมม่าควบคู่กับสายพันธุ์เดลต้า
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศบราซิล พบว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงแรกๆที่เริ่มได้รับวัคซีนจากต่างประเทศ ทำให้ในปัจจุบัน มีจำนวนประชากรชาวบราซิลเกินครึ่งหนึ่งของประเทศได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม อย่างไรก็ตาม มีเพียง 20% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับการฉีดครบโดส เนื่องจากบราซิลกำหนดให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ และแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มที่ 1 เป็นเวลา 3 เดือน ในขณะที่ กำหนดให้ฉีดวัคซีนโคโนนาแวกซ์เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มที่ 1 เป็นเวลา 1 เดือน
