บริษัทยาไฟเซอร์สร้างวัคซีนป้องกันโควิดได้ผล 90%

1091
0
Share:

นายอัลเบิร์ต โบล่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทเวชภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา แถลงว่า การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ร่วมกันกับไบโอเอ็นเทค ยักษ์เวชภัณฑ์จากเยอรมนี ปรากฎว่าได้ผลถึง 90% ในการป้องกันไม่ติดโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการวิทยาศาสตร์ และมนุษยชาติ
.
ไฟเซอร์ เปิดเผยต่อไปว่า ผลจากการทดสอบคู่กันระหว่างอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนที่พัฒนาขึ้นมา กับอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนหลอก หรือ Placebo ให้ผลว่า สามารถป้องกันได้สูงถึง 90% ในระยะเวลา 7 วันหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนจริงดังกล่าวเป็นชุดที่ 2 ซึ่งเป็นการทดลองในระยะที่ 3 กับอาสาสมัครทั้งหมดราว 44,000 คน
.
ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค สรุปได้ว่าคุณสมบัติของวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ดังกล่าว สามาถบรรลุเป้าหมายในการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ใน 28 วันแรกหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนรวม 2 ครั้ง
.
สำหรับกฎเกณฑ์ในการพิจารณาว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จะเป็นที่ยอมรับและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผลนั้น นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ตั้งไว้ว่าต้องมีประสิทธิภาพถึงระดับ 75% ก่อนหน้านี้ ดร.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานโรคระบาดโควิด-19 แห่งทำเนียบขาว สหรัฐ เคยกล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ต้องมีประสิทธิภาพถึงระหว่าง 50% หรือ 60% จึงจะเป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีพอ ที่จะพิจารณาให้การยอมรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
.
บริษัทเวชภัณฑ์ทั้ง 2 แห่ง ประเมินว่า ภายในเดือนนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะขอรับการพิจารณาและอนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าวในประเภทการใช้ฉุกเฉิน โดยบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) เปิดเผยต่อไปว่า ถ้าหากได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้เพื่อการฉุกเฉิน จะใช้สำหรับผูที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 85 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัท ไฟเซอร์จะต้องใช้เวลาอีก 2 เดือน ในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความปลอดภัยในการรับวัคซีนจากอาสาสมัครทดลองรับวัคซีนประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 22,000 คน จากอาสาสมัครทดลองวัคซีนทั้งหมด 44,000 คน
.
นายบิลล์ กรูเบอร์ หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งร่วมทำการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เปิดเผยว่า ทั้ง 2 บริษัทเวชภัณฑ์ ได้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 1,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62,490 ล้านบาท กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในการผลิตและจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดส หรือชุด มีผลในต้นปี 2564 นอกจากนี้ ยังบรรลุข้อตกลงในการผลิตและจัดส่งให้กับกลุ่มสหภาพยุโรป หรือกลุ่มอียู สหราชอาณาจักร แคนาดา และญี่ปุ่น
.
อย่างไรก็ตาม ไฟเซอร์ต้องใช้เวลาในการผลิตและจัดส่งให้ประชาชนชาวอเมริกันทั้งประเทศเป็นจำนวน 330 ล้านคนในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ภายในกลางปี 2564 ซึ่งรัฐบาลสหรัฐ ประกาศชัดเจนว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 สำหรับประชาชนชาวอเมริกันเป็นการฉีดให้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นชาวอเมริกันที่ทำประกัน หรือไม่ได้ทำประกัน และผู้ที่อยู่ในโครงการสุขภาพของรัฐบาล
.
ล่าสุด เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ในยุโรป และสหรัฐอเมริกา เต็มไปด้วยความคึกคักอย่างมาก โดยเฉพาะก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐ จะเปิดทำการในเวลา 21.30 น.(ตามเวลาไทย) ในคืนนี้ พบว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่วงหน้า พุ่งทะยานถึง 1,730 จุด หรือ +6.13% ส่งดัชนีหุ้นล่วงหน้าดังกล่าวมาอยู่ที่ระดับ 29,934 จุด ดัชนีหุ้นเอสแอด์พี 500 ล่วงหน้า พุ่งทะยานถึง 124 จุด หรือ +3.56% ส่งดัชนีหุ้นล่วงหน้าดังกล่าวมาอยู่ที่ระดับ 3,625 จุด และดัชนีหุ้นนาสแดคล่วงหน้า พุ่งถึง 64 จุด หรือ +0.53% ส่งดัชนีหุ้นล่วงหน้าดังกล่าวมาอยู่ที่ระดับ 12,139 จุด
.
สำหรับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการบินในตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐ ก่อนที่จะเปิดตลาดในคืนนี้ มีราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นรับกับข่าวดังกล่าว เช่น สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส พุ่ง 25% สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส ทะยาน 17% สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ดีด 19% เช่นเดียวกันกับราคาหุ้นโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินชั้นนำของสหรัฐ มีราคาคึกคักถึง 16%
.
ด้านประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความทันทีว่า “ตลาดหุ้นพุ่งครั้งใหญ่ วัคซีนจะมาเร็วๆนี้ รายงานว่ามีประสิทธิภาพ 90% ช่างเป็นข่าวที่ยิ่งใหญ่” ขณะที่ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 เปิดเผยว่า “ข่าววัคซีนให้ความหวัง แต่การต่อสู้ยังอีกยาวไกล”

ทั้งนี้ บริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ไฟเซอร์ได้ผลิตวัคซีนดังกล่าวควบคู่ไปกับการทดสอบกับอาสาสมัครที่เข้ารับการทดลองวัคซีนโควิด-19 ทั้งๆที่ยังไม่ทราบมาก่อนว่าวัคซีนดังกล่าวได้ผลสูงถึง 90% ไฟเซอร์คาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีน 50 ล้านโดส หรือชุด เพื่อใช้ป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ได้ถึง 25 ล้านคน เนื่องจากการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต้องฉีด 2 โดส หรือชุดต่อ 1 ราย