บริษัท ไปรษณีย์ไทยคุมส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศ ให้แค่หน้ากากผ้าเท่านั้น

1086
0
Share:

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ขานรับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการใช้ศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการขนส่ง โลจิสติกส์ของชาติ พร้อมทำหน้าที่ให้บริการจัดส่งอุปกรณ์ป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการฝากส่งในประเทศสามารถส่งได้ทั้ง หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยชนิดผ้า และเจลแอลกอฮอล์
.
สำหรับการฝากส่งไปยังปลายทางต่างประเทศ สามารถฝากส่งได้เฉพาะหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เท่านั้น โดยไม่จำกัดจำนวนชิ้น ซึ่งฝากส่งด้วยบริการ Courier Post บริการ Logispost World บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ บริการพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ บริการ ePacket บริการไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ ซึ่งผู้ฝากส่งต้องแสดงสิ่งของที่ฝากส่งหรือเปิดกล่อง ซอง ต่อหน้าเจ้าหน้าที่รับฝาก
.
พร้อมทั้งต้องระบุหน้ากล่อง ซอง ว่า “cloth face mask” หรือ “fabric face mask” และลงนามรับทราบเงื่อนไขการฝากส่ง และงดการฝากส่งหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และหรือที่มีส่วนประกอบของคาร์บอน และหรือที่มีวาล์วปิด หน้ากากอนามัยชนิด N95 หน้ากากสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังคงมีความต้องการใช้ภายในประเทศสูง รวมถึงเจลแอลกอฮอล์ เนื่องจากของเหลวเป็นสิ่งของต้องห้ามในการฝากส่ง โดยการฝากส่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ผู้ฝากส่งสามารถใช้บริการได้ทุกที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ
.
นอกจากนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถซื้อขายสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภค รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโควิด -19 ผ่านร้านค้าออนไลน์ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้านในสถานการณ์การที่เชื้อไวรัสโควิด -19 แพร่กระจายมากขึ้น
.
อีกทั้งเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่ให้หยุดชะงัก ไปรษณีย์ไทยจึงเปิดบริการ “ยิ้มสู้-19” ส่งสิ่งของเหมาจ่ายราคาประหยัด อัตราค่าบริการชิ้นละ 19 บาทราคาเดียว น้ำหนักสิ่งของฝากส่งสูงสุดไม่เกิน 1 กิโลกรัม/ชิ้น จัดส่งสิ่งของถึงปลายทางภายใน 2-5 วันทำการ สามารถติดตามสถานะสิ่งของได้ พร้อมความคุ้มครองสูงสุด 1,000 บาท/ชิ้น
.
อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยวงเงินเรียกเก็บ ณ ที่อยู่ผู้รับไม่เกิน 30,000 บาท/ชิ้น พร้อม SMS แจ้งผู้รับปลายทางได้ โดยคิดค่าบริการบวกเพิ่มอีก 10 บาท/ชิ้น ซึ่งจะเรียกเก็บจากสินค้าที่เก็บเงินได้แล้วเท่านั้น สามารถใช้บริการได้ทุกที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้– 30 เมษายน 2563