บีโอไอขยายเวลามาตรการพิเศษ SMEs หนุนธุรกิจฟื้นตัว

บีโอไอได้ออกมาตรการพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SMEs มาอย่างต่อเนื่อง และได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ซึ่งเดิมทีมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้กับ SMEs จะสิ้นสุดให้ยื่นคำขอรับส่งเสริมฯภายในปี 2564 นี้ แต่เพราะมาตรการนี้ เป็นประโยชน์และสร้างแต้มต่อให้กับ SMEs ไทย และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ SMEs หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายได้อย่างมาก คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับส่งเสริมตามมาตรการ SMEs ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ไปจนถึงสิ้นปี 2565
สำหรับมาตรการพิเศษในการส่งเสริม SMEs ของบีโอไอมีหลักการ 3 ข้อ ได้แก่

ข้อแรก เพิ่มสิทธิประโยชน์
– เพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 2 เท่า จากเกณฑ์ปกติโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจะได้วงเงินยกเว้น 100% ของเงินลงทุน แต่ SMEs ได้เพิ่มเป็น 200%

ข้อสอง ผ่อนปรนเงื่อนไข
– เงินทุนขั้นต่ำจากเกณฑ์ปกติ 1 ล้านบาท เหลือเพียง 5 แสนบาท
– สามารถใช้เครื่องจักรใช้แล้วมาใช้ได้ในโครงการที่ขอใหม่ได้ แต่ต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท และต้องมีการลงทุนใหม่ในเครื่องจักรหลักที่ใช้ในโครงการด้วยอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

ข้อสาม สนับสนุน SMEs ไทย
– เงื่อนไขโครงการต้องถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยอย่างน้อยร้อยละ 51
– มียอดขายรวมทั้งกิจการที่ได้รับส่งเสริมและไม่ได้รับส่งเสริมบีโอไอ ไม่เกิน 500 ล้านบาทในช่วง 3 ปีแรกของโครงการ

ทั้งนี้ SMEs ยังได้รับสิทธิและประโยชน์พื้นฐาน ในเรื่องระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้ฯ สูงสุด 8 ปี ตามประเภทกิจการ และยังได้สิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ (Merit-based Incentives) เพื่อกระตุ้นให้ SMEs พัฒนาศักยภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมซึ่งจะช่วยให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ ตลอดจนส่งเสริม SMEs ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคและเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ผลจากการขยายระยะเวลามาตรการหนุน SMEs ดังกล่าว จะช่วยเร่งเพิ่มศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้